วันโอนเงินเดือน มี.ค.68 ช่วย 3 กลุ่มเปราะบาง เช็กปฏิทินเงินเข้า

วันโอนเงินเดือน มี.ค.68 ช่วย 3 กลุ่มเปราะบาง เช็กปฏิทินเงินเข้า

View icon 9.5K
วันที่ 27 ก.พ. 2568 | 11.01 น.
เกาะกระแสออนไลน์
แชร์
ประกาศแล้ว ! วันโอนเงินช่วยเหลือ 3 กลุ่มเปราะบาง ค่าครองชีพงวดเดือน มี.ค.68 เช็กปฏิทินเงินเข้า - อัปเดตสวัสดิการ "คนพิการ" ได้สิทธิใช้อินเตอร์เน็ต ฟรี

ประกาศแล้วเงินช่วยเหลือ "กลุ่มเปราะบาง" งวดเดือนมีนาคม 2568 รัฐบาลโอนเงินเข้าบัญชีผู้มีสิทธิ ในวันจันทร์ที่ 10 มีนาคม 2568 เป็นเงินค่าครองชีพ ให้แก่ประชาชน 3 กลุ่ม ได้แก่ เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และ เงินเบี้ยผู้พิการ โดยช่วยเหลือต่อเนื่องทุกเดือน รายใหม่ที่เข้าเกณฑ์สามารถลงทะเบียนรับเบี้ยช่วยเหลือได้เช่นกัน รายละเอียดดังนี้

1.เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด หรือ เงินอุดหนุนบุตร เป็นโครงการของกรมกิจการเด็กและเยาวชนเพื่อให้เด็กได้รับสวัสดิการ ตั้งแต่เด็กแรกเกิด จนมีอายุครบ 6 ปี คนละ 600 บาทต่อเดือน และไม่จำกัดจำนวนบุตร

โดยมีเงื่อนไขเป็นเด็กที่มีสัญชาติไทย อาศัยอยู่กับบิดา มารดา หรือผู้ปกครองที่ดูแลเด็ก ในครัวเรือนที่สมาชิกมีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี

ทั้งนี้ ผู้ที่มีคุณสมบัติเข้าเงื่อนไข สามารถลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ได้ตลอด ซึ่งสามารถยื่นคำร้องในพื้นที่ที่เด็กแรกเกิดและผู้ปกครองอาศัยอยู่จริง (ไม่จำเป็นต้องเป็นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน) ดังนี้

- กรุงเทพมหานคร ลงทะเบียนได้ที่สำนักงานเขต
- เมืองพัทยา ลงทะเบียนได้ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา
- ส่วนภูมิภาค ลงทะเบียนได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาล

นอกจากนั้น ยังสามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “เงินเด็ก” ได้ แต่ทั้งนี้ผู้ปกครองต้องพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่าน แอปพลิเคชัน ThaiD ของกรมการปกครองก่อน

อ่านข่าว : รายใหม่เปิดลงทะเบียน! ขอรับเงินอุดหนุนบุตร 600 บาท/เดือน

โดยเมื่อตรวจสอบสิทธิผ่านแล้ว จะได้รับเงินมีผล ตั้งแต่เดือนที่ลงทะเบียนรับเงิน จนเด็กอายุครบ 6 ปี

ช่องทางตรวจสอบสิทธิ เงินอุดหนุนบุตร 600 บาท

- เว็บไซต์ กรมกิจการเด็กและเยาวชน
- แอปพลิเคชัน เงินเด็ก ดาวน์โหลดที่นี่ Google Play, App Store

679af9e074a689.15741027.jpg
 
2.เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

ผู้สูงอายุซึ่งมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ สัญชาติไทย ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการ หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่ได้จัดให้อย่างเป็นประจำ จะได้รับการช่วยเหลือเงินเบี้ยยังชีพเป็นรายเดือนตลอดชีวิต โดยแบ่งตามช่วงอายุแบบขั้นบันได ดังนี้

อายุ 60 – 69 ปี จะได้รับเดือนละ 600 บาท
อายุ 70 – 79 ปี จะได้รับเดือนละ 700 บาท
อายุ 80 – 89 ปี จะได้รับเดือนละ 800 บาท
อายุ 90 ปีขึ้นไป จะได้รับเดือนละ 1,000 บาท

อ่านข่าว : เปิดรับรายใหม่! ลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ งบปี 69

สำหรับผู้สูงอายุที่มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์การขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ สามารถติดต่อลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุปี 2569 ได้แล้ว ภายในเดือนกันยายน 2568 คุณสมบัติดังนี้

1.เป็นผู้สูงอายุรายใหม่ และยังไม่เคยลงทะเบียน
2.สัญชาติไทย
3.เป็นผู้มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ในปีงบประมาณ 2569 นับอายุจนถึงวันที่ 1 กันยายน 2568 (เกิดตั้งแต่ 2 กันยายน 2508 - 1 กันยายน 2509)

3.เงินเบี้ยผู้พิการ
คนพิการทุกคนที่มีสมุด บัตรประจำตัวคนพิการมีสิทธิลงทะเบียนขอรับ “เบี้ยความพิการ” คนละ 800-1,000 บาทต่อเดือนได้ ดังนี้ 

-คนพิการที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี ได้รับเบี้ยคนพิการ รายละ 1,000 บาทต่อเดือน
-คนพิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ได้รับเบี้ยคนพิการ รายละ 800 บาทต่อเดือน

ทั้งหากเป็นคนพิการอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็จะสามารถกดเพิ่มจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนอีก 200 บาทต่อเดือน รวมได้รับรายละ 1,000 บาทต่อเดือน

อ่านข่าว : พม. เร่งเดินเครื่อง เพิ่มเบี้ยอุดหนุนเด็ก-คนพิการ-ผู้สูงอายุ คาด ได้ใช้ 1 ต.ค. 68

ขึ้นทะเบียนคนพิการรายใหม่
ผู้พิการรายใหม่ สามารถติดต่อขึ้นทะเบียนคนพิการ ได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ตั้งอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดในทุกจังหวัด) หรือพื้นที่กรุงเทพฯ ติดต่อได้ที่ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ, ศูนย์บริการคนพิการกรุงเทพมหานคร

ขั้นตอนการขอมีบัตรประจำตัวคนพิการ ต้องทำอย่างไร

1.คนพิการเข้ารับการตรวจ เพื่อขอรับเอกสารรับรองความพิการ ณ โรงพยาบาลของรัฐ
2.คนพิการ/ผู้ดูแล นำเอกสารยื่นเจ้าหน้าที่ ทำการตรวจสอบเอกสาร
3.เจ้าหน้าที่ทำการบันทึกข้อมูล ออกบัตรประจำตัวคนพิการ
4.ยื่นบัตรขึ้นทะเบียน
5.รอรับสิทธิเบี้ยความพิการ

เอกสารที่ต้องเตรียม (อย่างละ 1 ฉบับ)

1.เอกสารรับรองความพิการ จากโรงพยาบาลของรัฐ
2.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาสูติบัตร (คนพิการ)
3.สำเนาทะเบียนบ้าน (คนพิการ)
4.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน/สำเนาทะเบียนบ้าน (ผู้ดูแล)
5.รูปถ่ายคนพิการ 1 นิ้ว (กรณีคนพิการไม่สามารถมาด้วยตนเอง)

กรณีผู้ที่จะเป็นผู้ดูแลคนพิการ ไม่ใช่ญาติร่วมสายโลหิต หรือทะเบียนบ้านไม่ได้อยู่ร่วมกับคนพิการ ให้ข้าราชการ กำนัน หรือผู้ใหญ่บ้าน รับรองบุคคลนั้นว่า เป็นผู้ดูแลคนพิการ พร้อมสำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรข้าราชการ อย่างละ 1 ฉบับ

นอกจากนี้ล่าสุด "กลุ่มคนพิการ" ยังจะได้รับสวัสดิการใหม่เพิ่มเติม โดยเมื่อวันที่ 25 ก.พ.68 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ประกาศเตรียมให้สิทธิคนพิการ 7 ประเภท ลงทะเบียนใช้อินเทอร์เน็ตฟรี เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง ตามศักยภาพ โดยกสทช. เตรียมจ่ายสนับสนุนค่าใช้จ่ายในส่วนของรายการส่งเสริมการขายของบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นเงิน 107 บาท ต่อเดือนต่อคน (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เป็นระยะเวลา 6 เดือน

โดยคนพิการที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ เป็นคนพิการที่มีความยากจน จำนวน 1.1 ล้านคน ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการ ในฐานข้อมูล โดยครอบคลุมคนพิการที่มีสิทธิ 7 ประเภท ได้แก่

1.พิการทางการเห็น 
2.พิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย
3.พิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย
4.พิการทางจิตใจหรือพฤติกรรม
5.พิการทางสติปัญญา
6.พิการทางการเรียนรู้
7.พิการทางออทิสติก

โดยสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ต ฟรี แบบไม่จำกัดปริมาณ ด้วยความเร็วอินเทอร์เน็ตไม่ต่ำกว่า 20 Mbps เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ - 31 กรกฎาคม 2568 ซึ่งคนพิการสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิได้คนละ 1 สิทธิ และไม่สามารถโอนสิทธิให้บุคคลอื่นได้

ยกเว้นกรณีคนพิการทางจิตใจหรือพฤติกรรม คนพิการทางสติปัญญา คนพิการทางการเรียนรู้ และคนพิการทางออทิสติก ให้ผู้ดูแลทำบัตรคนพิการสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิได้ อีกทั้ง สามารถเลือกใช้เลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่เดิมหรือรับ ซิมการ์ดอินเตอร์เน็ตสำหรับเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ใหม่

หากคนพิการมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการรับซิมการ์ดและการเปิดใช้บริการอินเตอร์เน็ต สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สำนักงาน กสทช. โทร. 1200 และ LINE  ID: @netfree_infinite

67bfe6fd321368.86001056.jpg

ข่าวที่เกี่ยวข้อง