ผอ.โรงเรียนทำร้ายครู เหตุครูทำงานไม่ได้ดั่งใจ ล่าสุด ครูผู้เสียหายโร่แจ้งความแล้ว พร้อมอยากได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
จากกรณีเพจต้นอ้อเป็นหนึ่ง โพสต์ข้อความ ผอ.โรงเรียน ทำร้ายร่างกายครูในโรงเรียน เพราะครูทำงานไม่ได้ดั่งใจ พร้อมติดแฮชแท็ค #มหาสารคาม โดยในคอมเมนท์ ระบุว่า ญาติคุณครูร้องมาทางต้นอ้อเป็นหนึ่งว่าน้องสาวถูก ผอ. ทำร้ายร่างกาย
ล่าสุดวันที่ 27 ก.พ.68 เวลา 19.30 น โดยผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังครูสาวคนดังกล่าว ชื่อ ครูสกาว อายุ 29 ปี โดยครูเปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 โดยเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ช่วยเวลา 4 ทุ่มกว่าถึง 5 ทุ่ม ผู้อำนวยการได้บอกว่า ขอลายเซ็นคุณครูกับรูปภาพของเด็กนักเรียนที่ได้รับทุนชั้นตัวเองหน่วยนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ ผอ.จะดำเนินการลงระบบให้ ตนเองมาเห็นในช่วงเช้า ทางคณะครูจึงส่งรูปภาพพร้อมลายเซ็นไปให้ในช่วงเช้าวันที่ 11 ผู้อำนวยการจึงไม่พอใจ ว่าคุณครูเขียนลายเซ็นไม่ถูก คุณครูไปแก้ไขหน่อยนะ พวกตนก็รู้แล้วว่าสถานการณ์ไม่ปกติ ไม่โอเค เพราะว่าเคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาโดยตลอด ก็เลยพากันดำเนินการลงระบบเอง เลยถือคอมไปรวมกันอยู่ที่ห้อง ป.2 ในนั้นมีคณะครูอยู่ 4 ท่าน กำลังเปิดคอมลงระบบ ผอ.ก็เลยเดินเข้ามา พร้อมกับพูดว่า “เฮ็ดเป็นล่ะคะคุณครู คุณครูเคยเฮ็ดบ่ค่า เข้าระบบเป็นบ่” พูดทำนองเย้ยหยัน พวกตนก็เลยบอกว่ากำลังดำเนินการ ท่าน ผอ. ก็เลยบอกว่า “ไป ๆ บ่ต้องเฮ็ดแล้ว หมดแวลาแล้ว เดี๋ยวเฮาสิเฮ็ดเองดอก” แล้วก็ง้างฝ่ามือตีใส่หลังตนเลย แต่ตนก็ไม่ได้ตอบโต้ ไม่ได้อะไร หลังจากนั้นตนก็ได้พาเด็กไปทำบุญต่อ เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงวันมาฆบูชา ก็เลยพาเด็กขึ้นรถไป ทีนี้ตนรู้สึกว่าเจ็บบริเวณที่โดนกระทำ เลยให้เด็กถ่ายภาพให้คุณครูหน่อย ว่ามันเป็นยังไง พอเด็กถ่ายมาก็เห็นว่ามันแดง มันช้ำ ตนก็เลยส่งรูปไปให้ทางครอบครัวดู ทุกคนก็ไม่พอใจ พ่อแม่ สามี ก็บอกว่าทำเกินไปมั้ย น่าจะบอกกันดี ๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้องลงไม้ลงมือ
ซึ่งพฤติกรรมของ ผอ.มีอารมณ์รุนแรงเป็นประจำ ด่าทอต่อว่า ตนเองรับได้ เพราะว่าทนมาอยู่ตลอด แต่รอบนี้ลงไม้ลงมือด้วย ตนก็ไม่มั่นใจว่าถ้าปล่อยผ่านไป รอบหน้าตนจะโดนกระทำอีกมั้ย จะโดนหนักกว่าเดิมมั้ย อย่างน้อยเราก็มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อยู่ ไม่ยอมให้ใครมาย่ำยีได้
ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ ตนก็ยังเดินทางไปสอนนักเรียนตามปกติ พยายามทำตัวให้ปกติที่สุด แม้ว่าจะอึดอัดใจหรือลำบากใจที่ต้องทำงานร่วมกับท่านก็ตาม ซึ่งช่วงเกิดเหตุใหม่ ๆ มีภาวะเครียด วิตกกังวล นอนไม่หลับ ถึงขั้นต้องไปปรึกษาจิตแพทย์ แพทย์ได้ให้ยานอนหลับ และยาคลายเครียดมารับประทาน และนัดให้มาติดตามอาการในวันที่ 3 มีนาคมนี้ ถ้ายังไม่ดีขึ้นก็ต้องนัดพบจิตแพทย์ต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้ได้ไปร้องเรียนที่สำนักเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 1 อยู่ ทางเขตก็ได้ให้นิติกร มาสอบถามข้อมูลอยู่ แต่ว่า ณ ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งครอบครัวและญาติ ๆ รวมถึงตนเองก็รู้สึกอึดอัดใจ ที่ต้องมาทำงานร่วมกับท่าน และยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะอะไรยังไง ก็เลยอยากให้สื่อเป็นกระบอกเสียงว่าสังคมส่วนใหญ่คิดยังไงกับเรื่องแบบนี้ด้วย
ซึ่งที่ตนเองต้องออกมาร้องต่อสื่อมวลชน ก็เพราะต้องการที่จะปกป้องศักดิ์ศรีของตนเอง คนทุกคนล้วนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ในตัวเอง แม้ว่าตนเองจะเป็นครูผู้น้อย อยู่ใต้บังคับบัญชาของท่าน แต่ตนมองว่าการกระทำแบบนี้ไม่สมควร อยากให้ทางเขต เร่งสรุป ว่าจากที่ได้สอบตนเองไป สอบคณะครูไป สอบท่าน ผอ. ไป จะได้ข้อสรุปอย่างไร ข้อสรุปที่ได้เป็ยังไง ตนเองเป็นฝ่ายผิด หรือฝ่ายถูก ฟังจากปากท่าน ผอ. แล้วเป็นยังไง ซึ่ง ณ วันนี้ยังไม่ได้คำตอบ ถึงตอนนี้ก็ยังเป็นกังวล เพราะทุกวันนี้ไปทำงานด้วยความเครียด ตนเองต้องไปปั้นหน้า เวลาพบเจอท่านในโรงเรียนตนเองก็อึดอัดใจ ถ้าท่านอยู่ตรงไหน ตนก็จะพยายามเลี่ยง ซึ่งหลังจากเกิดเหตุก็รู้สึกไม่สบายใจ กังวลในอยู่ตลอดเวลา ถ้าตนทำงาน ณ ที่แห่งนี้ ตนก็คงเกิดความเครียด ตนเองมีลูกเล็ก มันก็จะส่งผลกระทบต่อครอบครัว ต่อนักเรียนที่ตนเองสอน ซึ่งรู้สึกว่าตอนนี้ตนเองทำงานได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร
ภายหลังจากที่เกิดเหตุ จากคุณครู ได้ไปลงบันทึกประวันไว้แล้วที่ สภ.มะค่า อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ซึ่งในการไปลงบันทึกประจำวันในวันนี้ ทางคุณครูไม่ได้ประสงค์ที่จะดำเนินคดี แต่เมื่อเวลามันเนิ่นนานมาขนาดนี้ ประกอบกับถูกทาง ผอ. พูดจาไม่ค่อยดี ก็เลยได้ปรึกษากับทางครอบครัวว่า ะแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับ ผอ.ให้ถึงที่สุด
โดยในช่วงเวลา 19.30 น. ที่ผ่านมา ทางคุณครูและครอบครัว ได้เดินทางไปที่ สภ.มะค่า เพื่อดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ผอ. คนดังกล่าว กับ ร.ต.อ.ภพชัย มาตรา พนักงานสอบสวน สภ.มะค่า ซึ่งขั้นตอนถัดจากนี้ไป ทางเจ้าหน้าที่ก็จะดูใบแพทย์ประกอบคำวินิจฉัยประกอบการตั้งข้อหา โดยได้สอบปากคำผู้เสียหายประกอบ จากนั้นก็จะได้ออกหมายเรียกทาง ผอ. เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป