ข่าวภาคค่ำ - ตำรวจยังร่วมกันเดินหน้าสอบปากคำมาราธอน 119 คนไทย ที่ถูกช่วยมาจากเครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์ เริ่มพบบางส่วนเกี่ยวข้องกับ 46 คดี ที่มีผู้เสียหายร้องทุกข์ผ่านระบบออนไลน์
ความคืบหน้าการสอบปากคำ คนไทย 119 คน ที่ถูกพาตัวออกมาจากเครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์ข้ามกลับมาจากประเทศกัมพูชา พบมีผู้ให้การเป็นประโยชน์เพิ่มเติม โดย เจ้าตัวเล่าให้ฟังว่า เดิมตั้งใจไปสมัครทำงานให้กับเครือข่ายเว็บฯ พนัน แต่ถูกหลอกให้ไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ สวมรอยอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง ซึ่งภายในอาคารจะมีการแยกห้อง เพื่อหลอกเหยื่อไม่ต่ำกว่า 20 ห้อง
โดยตนเองมีรายได้ 20,000 บาท ต้องถูกหักเดือนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 7 เดือน เพื่อชดใช้ค่าตัวที่มีคนพาไป ยอมรับว่างานที่ทำตนเองรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง แต่ไม่ถึงขั้นถูกทำร้ายร่างกาย
ส่วนข้อมูลเหยื่อ อ้างว่ามีเอไอคัดกรองส่งมาให้ เป็นข้อมูลของพนักงานรัฐวิสาหกิจเกษียณอายุราชการ เชื่อว่าข้อมูลนี้รั่วไหลมาจากระบบ แล้วถูกเอไอคัดกรองออกมาอีกที ก่อนจะสุ่มเบอร์ให้โทร.ติดต่อ หากใครรับสาย ก็จะมีข้อมูลส่วนตัว ชื่อ-นามสกุล, อายุ, ที่อยู่, เลขบัตรประชาชน, ข้อมูลการทำงานในอดีต
หลังหลอกให้ติดตั้งแอปฯ ปลอม หรือแอปฯ ควบคุมจากระยะไกลเสร็จแล้ว ก็จะมีแก๊งคอลเซนเตอร์เข้าไปควบคุมอีกที โดยหลังจากหลอกลวงไปได้ระยะหนึ่ง จะถูกส่งไปอีกห้อง เพื่ออ้างเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นในการหลอกลวงเหยื่อ
ด้าน ผู้บัญชาการ สอท. เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบว่า ในจำนวนคนไทย 119 คน มีคนถูกออกหมายจับ 7 คน 11 หมายจับ เป็นคดียาเสพติด และคดีฉ้อโกงประชาชนทางออนไลน์ นอกจากนี้ยังพบว่ามีอีก 10 คน ที่พบความเกี่ยวข้องกับคดีที่มีการร้องเรียนผ่านการแจ้งความออนไลน์ รวม 46 คดี
ขณะที่ ฝ่ายสืบสวน อยู่ระหว่างการนำโทรศัพท์ 121 เครื่อง ไปตรวจสอบขยายผล และยังไม่สรุปได้ว่าคนไทยกลุ่มนี้สมัครใจไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์หรือไม่ จนกว่ากระบวนการคัดแยกจะเสร็จสิ้น