สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - เหตุผู้ป่วย อายุ 17 ปี เส้นเลือดในสมองแตก หลังพ่อแจ้งว่า แพทย์วินิจฉัยผิดพลาด บอกว่า ลูกแค่ป่วยไมเกรน วานนี้ทางโรงพยาบาลฯ ออกมาแจงยิบ
โรงพยาบาลลกำแพงเพชร ชี้แจงแถลงยิบ เริ่มตั้งแต่ช่วงที่ผู้เสียชีวิตเข้ามารักษา 26 กุมภาพันธ์ ที่ห้องฉุกเฉิน เวลา 04.24 น. แพทย์ประเมินแล้ว เป็นอาการปวดไมเกรน รักษาโดยการฉีดยาแก้ปวดเข้าทางหลอดเลือดดำ และให้สังเกตอาการ ระหว่างนั้นผู้ป่วยอาการทุเลาลง นอนหลับได้ดี
เวลา 09.33 น. แพทย์ประเมินอาการ แล้วให้กลับบ้าน เนื่องจากอาการทุกอย่างดีขึ้น ซึ่งทีมแพทย์ได้บอกแม่ผู้เสียชีวิตว่า หากอาการไม่ดีขึ้น ค่อยกลับมาใหม่
เวลา 20.07 น. อาการปวดกลับมา กินยาแก้ปวดก็ไม่ทุเลา จึงมาโรงพยาบาลใหม่ แพทย์จับตรวจร่างกายอีกครั้ง เจอชีพจรเต้นเร็ว รู้สึกตัว แต่ถามตอบช้า
เวลา 21.05 น. มือเกร็ง 2 ข้าง ต้องฉีดยากันชักเข้าทางหลอดเลือดดำ ส่งเอกซเรย์ตรวจสมอง พบเลือดออกในสมองด้านขวา จึงผ่าตัดสมอง เพื่อนำเลือดที่คั่งในสมองออก ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง
วันรุ่งขึ้น (27 ก.พ.) เวลา 11.30 น. เจอปัญหาความดันโลหิตสูงขึ้น ชีพจรเต้นเร็วมาก สายตาตอบสนองต่อแสงช้าลง สั่งเอกซเรย์ด่วน พบเลือดออกในสมองซ้ำ ร่างกายเริ่มไม่ตอบสนอง แพทย์ประเมินร่วมกันว่า ผู้ป่วยมีปัญหาเกล็ดเลือดต่ำผิดปกติจากโรคเลือด ร่วมกับมีภาวะเลือดออกบริเวณแกนสมอง จึงรักษาโดยการให้เลือด พลาสม่า เกล็ดเลือด และฉีดยาช่วยให้เลือดหยุด ใช้เครื่องช่วยหายใจ ให้ยากันชัก ให้ยาลดความดันในศีรษะ ให้ยาลดความดันทางหลอดเลือดดำ และยากดภูมิชนิดฉีด แต่ผู้ป่วยมีภาวะติดเชื้อในปอดด้านขวา แถมตามมาด้วยการติดเชื้อในกระแสเลือด แพทย์ให้ยาปฏิชีวนะชนิดฉีด เพื่อรักษาต่อลมหายใจ
ตั้งแต่ 28 กุมภาพันธ์ - 5 มีนาคม แพทย์พยายามยื้อชีวิตเรื่อยมา แต่สุดท้าย 5 มีนาคม เวลา 15.35 น. ผู้ป่วยไม่มีสัญญานชีพ และเสียชีวิต จากอาการเส้นเลือดในสมองแตก ยืนยันว่าเป็นการรักษาตามอาการ โรงพยาบาลไม่ได้นิ่งเฉย