พายุไซโคลนอัลเฟรดทำให้ออสเตรเลียเผชิญฝนตกหนัก กระแสลมแรง บ้านเรือนกว่า 300,000 หลัง ไม่มีไฟฟ้าใช้ แต่พายุเริ่มอ่อนกำลังแล้ว
ออสเตรเลียรอดพ้นจากการเผชิญพายุที่เลวร้ายสุดในรอบหลายสิบปี หลังพายุไซโคลนอัลเฟรด (Alfred) ที่ยังคงส่งผลกระทบต่อพื้นที่บริเวณชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ อ่อนกำลังลงเป็นความกดอากาศต่ำเขตร้อน หลังเคลื่อนตัวผ่านหมู่เกาะนอกชายฝั่งของรัฐควีนส์แลนด์ เมื่อคืนที่ผ่านมา และกำลังเคลื่อนตัวต่อไปยังแผ่นดินใหญ่
อิทธิพลของพายุไซโคลนอัลเฟรด ทำให้บ้านเรือนประชาชนกว่า 300,000 หลัง ในรัฐควีนแลนด์ และรัฐนิวเซาท์เวลส์ ไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากกระแสลมแรงทำให้เสาไฟฟ้าหักโค่น ขณะที่ สนามบินบริสเบน ในเมืองหลวงของควีนส์แลนด์ ต้องปิดให้บริการชั่วคราว เช่นเดียวกับบริการขนส่งสาธารณะ และโรงเรียนมากกว่า 1,280 หลัง ก็ปิดทำการ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่ทางการยังคงเตือนให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านเรือน เพราะแม้ว่าพายุจะลดความรุนแรงลงแล้ว แต่ก็ยังทำให้มีฝนตกหนัก กระแสลมแรง และน้ำท่วม
ทั้งนี้ ทางการออสเตรเลียอธิบายถึงพายุโซโคลนอัลเฟรดว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยากมากสำหรับเมืองบริสเบน ซึ่งเคยถูกพายุไซโคลนพัดถล่มครั้งสุดท้ายเมื่อกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ในปี 2517