รวบคาผ้าเหลือง ผู้ต้องหาปล้นทรัพย์บ้านเศรษฐี หนีคดีกว่า 10 ปี หลังถูกจับส่งศาลรอบแรก ได้ประกันตัว แต่กลับไม่มารายงานตัวต่อศาลตามกำหนดนัด ศาลจึงออกหมายประกาศสืบจับ พบหนีมาบวชเป็นพระสงฆ์ที่วัดดังแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.อาธิรัตน์ ทิพย์เจริญ สว.กก.3 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป. ร่วมกันจับกุม พระหรือนายฉลาดฯ อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันปล้นทรัพย์” โดนจับกุมได้ที่ วัดแห่งหนึ่ง ม.2 ต.บ้านนา อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา
พฤติการณ์ ขณะเกิดเหตุเมื่อประมาณ ปี 2553 นายฉลาดฯ กับพวกรวม 4 คน ได้ร่วมกันไปปล้นทรัพย์สินภายในบ้านเศรษฐีหลังหนึ่งในเขต อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ในช่วงเวลากลางคืน โดยนายฉลาดฯ ทำหน้าที่เป็นผู้ขับรถพาพวกไปปล้น และเป็นคนดูต้นทาง ในขณะก่อเหตุนายฉลาดฯ ได้จอดรถไว้บริเวณหน้าบ้าน จากนั้นพวกอีก 3 คน ได้งัดเข้าไปภายในบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมกับจับผู้ดูแลบ้านมัดมือไว้ แล้วให้นายฉลาดฯ นำตัวมาขังไว้ในรถคันที่ขับไปก่อเหตุ แล้วนำตัวปล่อยทิ้งไว้กลางทาง ก่อนที่จะขับรถกลับมาที่บ้านที่เกิดเหตุเพื่อรับตัวผู้ก่อเหตุอีก 3 คน พร้อมทรัพย์สินที่ได้จากการก่อเหตุ จำนวนหลายรายการ ได้แก่ สร้อยคอทองคำ แหวนทอง นาฬิกา พระเครื่อง และทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ อีกหลายรายการ มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมตัว นายฉลาดฯ กับพวกที่ก่อเหตุ รวม 4 คน มาดำเนินคดี ตามกฎหมาย โดยศาลชั้นต้นตัดสิน ให้จำคุกนายฉลาดฯ กับพวก คนละ 18 ปี แต่นายฉลาดฯ ได้ยื่นขอประกันตัวด้วยวงเงิน 1 ล้านบาท และหลบหนีไม่มารายงานตัวต่อศาลตามกำหนดนัด ศาลจังหวัดสมุทรปราการจึงได้ออกหมายประกาศสืบจับ เพื่อให้ติดตามจับกุมตัวนายฉลาดฯ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และเป็นที่สนใจของสังคมในวงกว้าง ประกอบกับผู้ต้องหา มีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ภาคตะวันออก ให้ความช่วยเหลือในการหลบหนีมากว่า 10 ปี
กระทั่ง พ.ต.ต.อาธิรัตน์ ทิพย์เจริญ สว.กก.3 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ทำการสืบสวนทราบว่า นายฉลาดฯหลบหนีมาบวชเป็นพระสงฆ์ที่วัดดังแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้ร่วมกันเข้าทำการจับกุมตัว
นายฉลาดฯ และนำส่งศาลจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา