เจ้าหน้าที่กู้ภัย โดนใบสั่งความเร็ว หลังนำผู้ป่วยไปส่งที่ รพ.เชียงใหม่ ตำรวจทางหลวงแจง หากมีเหตุจำเป็นโต้แย้งได้ ระบบประมวลผลตามข้อเท็จจริงจากกล้องตรวจจับ 6 จุด
วันนี้ (10 มี.ค.68) จากกรณีที่สมาคมกู้ภัยเสริมงาม จังหวัดลำปาง ได้ออกมาเปิดเผยพร้อมร้องขอความเป็นธรรมกับทางตำรวจทางหลวง หลังเจอใบสั่ง ถูกจับความเร็วรถ ที่ความเร็ว 118 กม./ชม. ค่าปรับ 500 บาท เหตุเกิดวันที่ 13 มกราคม 2568 หลังนำผู้ป่วยรีบไปส่งที่ รพ.สวนปรุงจังหวัดเชียงใหม่
คลิปอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : กู้ภัยสุดงง ! นำผู้ป่วยจิตเวช มีอาการคลุ้มคลั่ง ไปส่งโรงพยาบาล ได้รับใบสั่งปรับ 500 บาท
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่ สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ5กองบังคับการตำรวจทางหลวง จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นผู้ออกใบสั่งดังกล่าว พบกับดาบอดิศร หุตะแพทย์ จ่ากอง ตำรวจทางหลวงลำปาง ได้พาผู้สื่อข่าวดูการทำงานของกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆที่ติดตั้งในพื้นที่เชื่อมต่อลำปาง-ลำพูน ข้ามดอยขุนตาล ซึ่งมีกล้องจับความเร็ว 6 ตัว และกล้องตรวจการณ์เพื่อดูเหตุการณ์ต่างๆ 18 ตัว ว่าการทำงานของกล้องตรวจจับความเร็วจะเป็นแบบอัตโนมัติ โดยกล้องจะมีการประมวลผลหากผู้ขับขี่ขับเร็วผ่านทั้ง 6 จุด ก็จะแจ้งผลมาที่ศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ ซึ่งขณะที่ดูกล้องช่วงเช้าถึงเวลาประมาณ 10.00 น. จะมีรถยนต์วิ่งผ่านพื้นที่ดังกล่าวประมาณ 2,600 คัน มีรถที่ขับเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนด 77 คัน ผ่านไปไม่ถึง 2 นาที มีรถยนต์ที่ขับเร็วเพิ่มมา 2 คัน เป็น 76 คัน
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ในห้องควบคุมเปิดเผยว่า กล้องทุกตัวจะแยกกันทำงาน กล้องตรวจการณ์หากเกิดเหตุบริเวณถนน เช่น รถเสีย ชนกัน อุบัติเหตุต่างๆ ก็จะมีสัณญาณเตือนขึ้นมา ก็จะรู้ได้ทันทีวว่าจุดไหนเกิดเหตุ ซึ่งกล้องก็จะบันทึกเหตุการณ์ไว้อย่างน้อย15 วัน เพื่อดูย้อนหลังได้ ส่วนกล้องตรวจความเร็วก็จะบันทึกแบบเรียลไทม์เช่นกัน และจะออกใบสั่งรายวัน
ดาบอดิศร เปิดเผยว่า ขั้นตอนการทำงานว่า กล้องจะตรวจจับความเร็วอัตโนมัติ พร้อมออกใบสั่งรายวัน เมื่อออกมาแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้ส่งให้กบเจ้าของรถตามข้อลมูล ส่วนกรณีรถกู้ภัยกล้องก็ตรวจจับตามปกติ เนื่องจากเป็นรถเอกชนและวิ่งผ่านจุดที่ตรวจจับระบบก็บันทึกและออกใบสั่งตามปกติ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่จัดส่งก็ต้องส่งไปตามระบบ ไม่มีใครรู้ว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถลำปางแล้วไปวิ่งอยู่พื้นที่ลำพูนไปด้วย เมื่อผิดก็ต้องส่งไปก่อน ส่วนประชาชนทุกคนที่ได้รับใบสั่งแล้ว หากมีเหตุจำเป็นหรือติดใจ ก็สามารถโต้แย้งได้ โดยสามารถเข้าไปโหลดแบบโต้แย้งทางเว็ปไซต์ หรือหากไม่สะดวกก็สามารถนำใบสั่งมาเขียนคำร้องที่สถานีได้ ซึ่งตรงนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็จะพิจารณาเคสบายเคสตามความจำเป็นรายกรณี กรณีของกู้ภัยก็สามารถนำใบสั่งแล้วมาเขียนคำร้องโดยแจงรายละเอียดความจำเป็นได้ที่สถานีในเวลาราชการ เมื่อเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วก็จะแจ้งผลกลับไป