ผื่นดำที่คอขัดถูไม่ออก บ่งบอกเริ่มมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน

ผื่นดำที่คอขัดถูไม่ออก บ่งบอกเริ่มมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน

View icon 839
วันที่ 10 มี.ค. 2568 | 13.18 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ผื่นดำที่คอแบบนี้ ขัดถูไม่ออก ผิวหนังช้าง ผิวหนาแบบตะปุ่มตะป่ำและคล้ำขึ้น บ่งบอกว่าตอนนี้เริ่มมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน ใครเป็นควรไปพบแพทย์

วันนี้ (10 มี.ค.68) เพจTensia เพจที่ให้ข้อมูลทางด้านวิทยาศาสตร์และสุขภาพ ได้นำภาพผื่นดำที่ลำคอมาเผยแพร่เพื่อให้นำไปสังเกตตนเองและคนใกล้ชิด พร้อมอธิบายถึงผื่นดำที่คอลักษณะตามภาพ ซึ่งจะไปถูไปขัดก็ไม่ออก เรียกว่าผิวหนังช้าง (Acanthosis nigricans) บ่งบอกว่าตอนนี้เริ่มมีภาวะดื้อต่ออินซูลินแล้ว

แอดมินเพจ Tensia อธิบด้ายด้วยว่า เมื่อร่างกายสัมผัสปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ มานาน เช่น มีโรคอ้วน จนเซลล์ไขมันผลิตสารก่ออักเสบอ่อน ๆ แบบเรื้อรังจนรบกวนสัญญาณอินซูลิน ในที่สุดอวัยวะสำคัญที่คอยฟังคำสั่งอินซูลิน เช่น ตับ กล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อไขมัน ก็เริ่มไม่ฟังคำสั่งอินซูลินอีกต่อไป เรียกภาวะนี้ว่า ภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งสามารถนำไปสู่เบาหวานชนิดที่ 2 ได้

ผลจากการดื้อคือ น้ำตาลในเลือดจึงสูงลอยตลอด เพราะขาดอวัยวะทั้งสามลดน้ำตาล ทำให้ตับอ่อนพยายามผลิตอินซูลินมากขึ้น (Hyperinsulinemia) ทำให้อินซูลินที่มากขึ้น ระดมกระตุ้นอวัยวะที่ยังไม่ได้ดื้อ เช่น เซลล์ผิวหนัง ผลคือทำให้เซลล์ผิวหนังบางจุดที่ไวต่อการกระตุ้น เช่น ต้นคอ แบ่งตัวมากขึ้น รวมทั้งยังทำให้สารที่ชื่อ IGF-1 ที่เกาะอยู่กับโปรตีนในเลือด อยู่ในรูปอิสระมากขึ้น ก็มากระตุ้นให้ผิวหนังแบ่งตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน

สุดท้ายเซลล์ผิวหนังแบ่งตัวมากขึ้น รวมเซลล์ที่สร้างสาร melanin ด้วย สุดท้ายจึงหนาแบบตะปุ่มตะป่ำและคล้ำขึ้น ใครเริ่มมีผื่นดำลักษณะดังกล่าว ควรไปพบแพทย์เพื่อค้นหาสาเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกลไกดื้ออินซูลิน แต่ในบางรายก็มาจากโรคอื่นได้

แอดมินเพจ Tensia ได้ให้คำตอบสำหรับคำถามที่ว่า โรคหนังช้างเมื่อเป็นแล้วรักหายได้หรือไม่ ก็ต้องดูว่ามันใช้โรคหนังช้างจริงไหม ถ้าใช่มันมาจากการดื้ออินซูลินกลไกนี้ใช่ไหม ถ้าใช่รักษาหายได้ ลดความอ้วน เพื่อไปให้เซลล์ไขมันเล็กลง หยุดเบียดกัน มันจะหยุดเครียดแล้วเปลี่ยนมาสร้างฮอร์โมนสนับสนุนการทำงานของอินซูลิน เช่น adiponectin เท่านี้ตับอ่อนก็จะหลั่ง insulin ลดลง การกระตุ้นเซลล์ผิวหนังจะลดลง แล้วมันก็ค่อย ๆ ผลัดผิวออกไป จนในที่สุดกลับมาหายได้ เพียงแต่ใช้เวลาหน่อย และยังขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการดื้ออินซูลินและปัจจัยเชิงพันธุกรรม ด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง