เช้านี้ที่หมอชิต - หญิงอายุ 46 ปี ถูกผัวรุ่นน้องติดยาหึงโหด ซ้อมปางตาย ตำรวจดำเนินคดีได้แค่ข้อหาเบา ทำให้ตอนนี้เธอต้องหนีหัวซุกหัวซุน
นางบานเย็น อายุ 46 ปี เผยใบหน้าที่ปูดบวม เบ้าตาทั้ง 2 ข้าง เขียวช้ำ จนแทบจะมองไม่เห็น เข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านดุง ดำเนินคดีกับ นายธวัชชัย อายุ 35 ปี ผัวรุ่นน้อง ทำร้ายมานานกว่า 1 ปี
เธอยังได้เปิดภาพวงจรปิดเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ถูก นายธวัชชัย (ผู้ก่อเหตุ) พาเพื่อนถือมีดบุกเข้ามาทำร้าย ข่มขู่ เคยแจ้งความดำเนินคดีเอาไว้ แต่หลังจากนั้นก็ยังถูกทำร้ายเรื่อยมา
จนเมื่อ 3 วันก่อน (6 มี.ค.) ขณะเธอนั่งกินเหล้ากับเพื่อน ๆ ถูกผัวโหดปรี่เข้ามาหาเตะ-ต่อย ลากเข้าตัวไปในห้อง บีบคอใช้ลวดหนามรัดจนเกือบตาย เพราะคิดว่าเธอนอกใจ จากนั้นถูกขังในบ้าน ก่อนจะฉวยโอกาสหลบหนีออกมาได้ จึงให้ลูกสาวพามาแจ้งความ
แต่ช้ำยิ่งกว่านั้น ตำรวจส่งเธอไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล แพทย์ลงความเห็นว่าบาดเจ็บไม่สาหัส รักษาตัว 7 วัน ก็หาย ตำรวจจะดำเนินคดีผู้ก่อเหตุได้แค่ข้อหาทะเลาะวิวาท หรือทำร้ายร่างกาย มีโทษปรับได้แค่ 4,000-5,000 บาท โทษเบา
หลังจากที่เธอหนีออกมาแจ้งความ ผู้ก่อเหตุแช็ตมาขู่ เธอหวาดกลัว ให้ลูกสาวพาหนีไปอยู่ที่อื่นเพื่อความปลอดภัย ล่าสุด เธอยอมถอนแจ้งความ เพราะกลัวผู้ก่อเหตุจะโกรธแค้น
ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านของผู้ก่อเหตุ ประตูปิดสนิท ไม่มีใครอยู่ เรียกอยู่นานก็ไม่มีเสียงตอบรับ
เพื่อนข้างบ้าน บอกว่า ผู้ก่อเหตุเป็นขาใหญ่ แต่ไม่เคยมาอาละวาดหาเรื่องเพื่อนบ้านใกล้เคียง ที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุเป็นคนเมียเยอะ ถูกทำร้ายทุกคน จนไม่มีใครทนอยู่ได้
ผู้ก่อเหตุเป็นคนอารมณ์ร้อนและเสพยาบ้า โดยเฉพาะ นางบานเย็น เคยถูกทำร้ายหลายครั้ง ยังเคยถามว่ามาทนอยู่กับมันทำไม จนเมื่อ 3 วันก่อน เห็นผู้บาดเจ็บวิ่งหนีตายออกมาขอความช่วยเหลือ สงสารจึงรีบพาไปส่ง
มีความคืบหน้าทางคดีเพิ่มเติมว่า หลังเป็นข่าวตลอดทั้งวัน ตำรวจ สภ.บ้านดุง เรียกผู้เสียหายเข้าไปให้ปากคำเพิ่มเติมวันนี้ (10 มี.ค.) และจะมีการเรียกตัวผู้ก่อเหตุไปดำเนินคดี เพราะการทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นคดีอาญา ยอมความไม่ได้