ถึงกับยิ้มแห้ง! ลุงวัย 58 ปี ควักใบขับขี่ให้ปลัดอำเภอ แต่ยาบ้าดันหล่นมาต่อหน้า สารภาพเสพไปแล้ว แต่ลืมว่าเก็บยาบ้าที่เหลือไว้ไหน จนมาโป๊ะแตกว่าอยู่ในกระเป๋าสตางค์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 68 ศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน รับแจ้งจากที่ว่าการอำเภอเมืองน่านว่า ปลัดอำเภอจับกุมชายรายหนึ่ง อายุ 58 ปี พกยาบ้ามาที่ว่าการอำเภอจำนวน 6 เม็ด
โดยเจ้าหน้าที่ อส.ได้เล่าว่า วันนี้ได้ออกติดตามกลุ่มเป้าหมาย ผู้ค้าและผู้เสพตามนโยบายของจังหวัดน่าน ในพื้นที่ ต.สะเนียน จนพบตัวลุงเอ (นามสมมุติ) อายุ 58 ปี กำลังขับรถอยู่บนถนนซึ่งเป็นเป้าหมายที่เฝ้าระวังติดตามอยู่ จึงทำการเรียกตรวจและซักถาม โดยลุงเอ ยอมรับว่าเสพยาบ้า จึงนำตัวมาที่ว่าการอำเภอเมืองน่าน เพื่อจะดำเนินการเข้าสู่กระบวนการบำบัด ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย โดยมีการค้นตัวอย่างละเอียด ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย
แต่เมื่อจะดำเนินการตามขั้นตอนกลับพบว่าลุงเอ ไม่ได้นำบัตรประจำตัวประชาชนมา จึงพาลุงเอ กลับไปที่บ้านเพื่อให้ลุงเอ ไปเอากระเป๋าเงิน พอไปถึงหน้าบ้านลุงเอ เจ้าหน้าที่กลับพบนายบี (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่จำได้ว่าเป็นบุคคลเดียวกันที่วิ่งหลบหนีโดยทิ้งยาบ้าไว้ 80 เม็ด โดยศาลจังหวัดน่านได้อนุมัติหมายจับแล้ว เดินผ่านหน้าบ้านลุงเอ พอดี จึงดำเนินการจับกุม นายบี ได้เพิ่มอีกคน โดยนายบียอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมาย ได้หลบหนีไปทำงานต่างจังหวัด เพิ่งกลับมาถึงเมื่อเช้านี้
หลังจับกุมตัวนายบี และลุงเอ ได้นำกระเป๋าเงินเรียบร้อยแล้ว จึงนำตัวกลับมาที่ว่าการอำเภอเมืองน่าน โดยมีนายธีราพร หมั่นแก้ว ปลัดอำเภอเมืองน่าน ดำเนินการเพื่อจะส่งตัวลุงเอ เข้าสู่กระบวนการบำบัด จึงขอเอกสารประจำตัว ซึ่งลุงเอ ได้หยิบกระเป๋าออกมา โดยล้วงเอาใบขับขี่เพื่อจะยื่นให้ปลัดอำเภอ แต่สิ่งที่หลุดออกมาพร้อมใบขับขี่ เป็นยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงซิปล็อกจำนวน 6 เม็ด หล่นต่อหน้าปลัดอำเภอ จึงดำเนินการจับกุมตัวลุงเอ และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
ด้านลุงเอ เล่าให้ฟังว่า ตนติดยาบ้า โดยเสพวันละ 2 เม็ด ตอนเช้าตนเสพไป 2 เม็ด แล้วเอายาบ้าที่เหลือไปซุกซ่อนไว้ แต่ตนก็จำไม่ได้ว่าซ่อนไว้ที่ไหน ตนหามาครึ่งวันแล้วไม่เจอ ก่อนจะออกมาเพื่อมาให้อาหารหมูในสวน แต่กลับมาเจอเจ้าหน้าที่เสียก่อน จนมาเจอปลัดฯ ขอดูบัตร ตนเอาบัตรออกมาเพื่อให้ปลัดดู แต่ยาบ้ากลับติดออกมาด้วย ตนจึงนึกได้แล้วว่าหลังเสพแล้วเอายาบ้าไว้ในกระเป๋าเงิน เจ้าหน้าที่จึงส่งตัวให้กลับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองน่าน เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย ต่อไป