เพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี เจ้าหน้าที่สูดเขม่าควัน ขณะช่วยเหลือผู้ป่วย เจ็บ 1

เพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี เจ้าหน้าที่สูดเขม่าควัน ขณะช่วยเหลือผู้ป่วย เจ็บ 1

View icon 183
วันที่ 12 มี.ค. 2568 | 13.45 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี เจ้าหน้าที่สูดเขม่าควัน ขณะช่วยเหลือผู้ป่วย เจ็บ 1 อพยพย้ายผู้ป่วยไปยังจุดปลอดภัย จำนวนครบถ้วน 191 ราย ตรวจสอบแล้วไม่พบการรั่วไหลของรังสี สำหรับหน่วยคลังเลือด มีพื้นที่ในการรับบริจาคโลหิตอย่างจำกัด อาจจะไม่ได้รับความสะดวก

จากกรณีที่มีกลุ่มควันและเพลิงไหม้เกิดขึ้นที่ อาคารหลัก (อาคาร 1) ของโรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 และทางคณะแพทยศาสตร์โรงพยามาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ชี้แจงออกประกาศฉบับที่ 1 ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้วนั้น ในวันนี้ ทางคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำการอพยพย้ายผู้ป่วยไปยังจุดปลอดภัย จำนวนครบถ้วน 191 ราย โดยเป็นการอพยพย้ายภายในโรงพยาบาล จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสูดเขม่าควันจำนวน 1 ราย ซึ่งเป็นบุคลากรที่เข้าไปช่วยเหลือในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าวได้รับการดูแลอยู่ในหอผู้ป่วยวิกฤต (ICU) และได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด

ผลกระทบดังกล่าว ทำให้คณะแพทยศาสตรโรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลได้รับผลกระทบในการให้บริการด้านรังสีวิทยาและพยาธิวิทยา ฝั่งอาคารหลัก (อาคาร 1) โดยเบื้องต้นการให้บริการด้านรังสีวิทยาและพยาธิวิทยาบางส่วนต้องย้ายไปให้บริการที่อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์เป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ จากข้อกังวลเรื่องรังสีรัวไหล ทางทีมวิศวกรรมได้ตรวจสอบแล้วไม่พบการรั่วไหลของรังสี สำหรับด้านการให้บริการทางพยาธิวิทยา ได้แก่ การบริจาคโลหิต ในขณะนี้ ทางคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ขอขอบคุณผู้ที่ประสงค์จะบริจาค แต่เนื่องจากหน่วยคลังเลือด มีพื้นที่ในการรับบริจาคโลหิตอย่างจำกัด อาจจะไม่ได้รับความสะดวก

ทั้งนี้ การเปิดให้บริการหน่วยต่าง ๆ ภายในอาคารหลัก (อาคาร 1) ชั้น 1 - 9 ฝั่งใต้ ยังคงปิดให้บริการ เพื่อทำการระบายกลิ่นและกลุ่มควันออกจากอาคารอย่างต่อเนื่อง ทางคณะแพทยศาสตรโรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล จะดำเนินการลดจำนวนผู้ป่วยการผ่าตัด ผู้ป่วยที่ไม่เร่งด่วนออกไป ภายใน 1-2 วัน โดยหากสามารถดำเนินการได้ปกติจะมีการประกาศต่อไป

ต้องขอขอบคุณความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนรวมทั้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงบรรเทาสาธารณภัยกำลังจากตำรวจทหารที่เข้ามาช่วยเหลือรวมทั้งสถานพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงที่พร้อมจะรับผู้ป่วยไปดูแลต่อและต้องขอบคุณบุคลากรของคณะฯทุกท่านที่ได้เข้ามาช่วยเหลือกันเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับความปลอดภัยทุกคนบุคลากรทุกท่านทำงานอย่างมืออาชีพตามแผนที่ได้ซ้อมไว้และยังช่วยกันแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าจนสามารถกลับมาดูแลผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง