วันนี้ (13 มี.ค. 68) ร.ต.อ.อภิมุข สุวรพันธ์ รอง สว.สอบสวน สภ.ย่อยห้วยหลวง อ.เมือง จ.อุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ภ.จว.อุดรธานี ว่ามีเหตุรถจยย. เสียหลักชนท้ายรถ 10 ล้อ บรรทุกอ้อย ที่จอดเสียอยู่ข้างทาง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเป็นชายวัยรุ่น 1 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย
เหตุเกิดบนถนนสายอุดรธานี-กุดจับ ก่อนถึงสามแยกบ้านป่อง ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี จุดบริการ อ.กุดจับ
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 2 ช่องจราจร ที่ท้ายรถบรรทุกอ้อย พบศพนายสหวัฒน์ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5/5 โรงเรียนแห่งหนึ่ง สภาพศพคอหักมีเลือดออกปาก จมูก และหู นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนพื้นถนน ที่ท้ายรถบรรทุกอ้อยด้านขวา พบรถจยย. สภาพด้านหน้าพังยับเยิน จากแรงชนเข้าอย่างจัง จนเหล็กกันชนท้ายรถบรรทุกหัก ใกล้กันพบหมวกกันน็อกของผู้ตาย
ส่วนผู้บาดเจ็บที่ซ้อนท้ายอาสากู้ภัยได้นำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ทราบชื่อภายหลังคือ นายธนพัฒน์ นักเรียนชั้น ม.5/5 ได้รับบาดเจ็บหัวแตก แต่ยังมีสติ ส่วนคนขับรถบรรทุกและคนงานที่มาด้วยกัน ยืนรอให้การกับตำรวจในที่เกิดเหตุ ด้วยอาหารตกใจ
จากการสอบสวน นายสายันต์ อายุ 43 ปี คนขับรถบรรทุกอ้อย เล่าว่า ตนขับรถบรรทุกขนอ้อยสดออกมาจากไร่ท้ายหมู่บ้านหนองโอน ต.เชียงพิณ อ.เมืองอุดรธานี มุ่งหน้าไปส่งอ้อยที่โรงงานนำตาลไทยอุดรธานี อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ขับมาได้สักพัก สายลมเบรกแตกรั่ว จึงจอดรถไว้ข้างทาง แล้วไปซื้อสายลมเบรก
โดยให้คนงานที่มาด้วยกัน ตัดกิ่งไม้วางไว้บนถนนห่างจากท้ายรถประมาณ 80-100 เมตร เพื่อเป็นสัญญาณว่ามีรถจอดเสีย กลับมาพบว่ามีวัยรุ่นชาย 2 คน ขี่รถจยย. ซ้อนกันมาจากตัวเมืองอุดรธานี พุ่งชนท้ายรถบรรทุกของตน เป็นเหตุให้คนขับรถจยย. เสียชีวิต และคนซ้อนได้รับบาดเจ็บหนัก
ทางด้านนายประเวท อายุ 49 ปี คนงานที่มากับรถบรรทุกอ้อย เล่าว่า หลังจากตนตัดกิ่งไม้วางไว้บนถนนเป็นระยะ เพื่อให้สัญญาณรถจอดเสีย ก่อนมายืนอยู่ที่หน้ารถบรรทุก เพื่อถอดสายลมเบรกรถรอนายจ้างซื้ออะไหล่กลับมาจากตัวเมืองอุดรธานี จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงมีอะไรชนท้ายรถบรรทุก จึงเดินไปดูก็พบว่า วัยรุ่นขี่รถจยย. มาชนท้ายรถคนขับเสียชีวิตคาที่ ส่วนคนซ้อนท้ายเจ็บหนักหัวแตก แต่ยังมีสติอยู่บ้าง จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้อง มาช่วยเหลือนำคนบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล
ขณะที่นายเดชา อายุ 43 ปี ลุงของผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายเป็นหลาน เรียนอยู่ชั้น ม.5/5 ช่วงนี้เป็นช่วงปิดภาคเรียน หลานชายและเพื่อนไปฝึกงานที่บริษัทขายอุปกรณ์ไฟฟ้าในตัวเมืองอุดรธานี และกำลังขี่รถกลับบ้าน ก่อนมาประสพอุบัติเหตุชนท้ายรถบรรทุกอ้อยที่จอดเสียข้างทาง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตร. ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาคนขับรถบรรทุกอ้อย เนื่องจากไม่มีพฤติกรรมหลบหนี และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี หลังจากนี้จะได้สอบปากคำคนขับ และพยานที่มาด้วยกันกับรถบรรทุกอ้อย รวมทั้งผู้บาดเจ็บที่ซ้อนท้ายรถจยย. อีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริง
ส่วนศพผู้ตายได้ให้อาสากู้ภัยฯ นำศพไปชันสูตรอย่างละเอียดที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ก่อนจะมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
