ชาวบ้านหดหู่ใจ แม่ติดเหล้าติดยา หอบเสื้อผ้า ผ้าห่ม หมอนมุ้ง มานอนศาลากลางหมู่บ้าน

ชาวบ้านหดหู่ใจ แม่ติดเหล้าติดยา หอบเสื้อผ้า ผ้าห่ม หมอนมุ้ง มานอนศาลากลางหมู่บ้าน แถมบังคับลูกชายวัย 8 ขวบ ไม่ให้ไปโรงเรียน ชาวบ้านสุดสงสารวอนหน่วยงานรัฐช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (12 มี.ค.68) แอดมินเพจบ้านดุงอัพเดต รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านป่าเป้าน้อย ต.ดงเย็น อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ว่ามีหญิงสาวรายหนึ่ง พาลูกชายมานอนศาลากลางบ้าน มีการหอบเสื้อผ้า  ผ้าห่ม หมอนมุ้ง มานอนที่ศาลากลางบ้าน นาน 4 วันแล้ว ทราบว่าเป็นชาวบ้านศรีเมือง ต.บ้านม่วง ไม่รู้หอบลูกมาอยู่ได้อย่างไร สอบถามหญิงสาวรายนี้ ทราบชื่อน.ส.แอน อายุ 42 ปี บอกว่า เป็นคนบ้านศรีเมือง พาลูกชายมาด้วย เพื่อจะมากรีดยาง แต่เจ้าของสวนยางฯ บอกว่า ปิดหน้ายางแล้วก็เลยพามานอนที่ตรงนี้ ตนเองมีปัญหาทางบ้าน เพราะพี่ชายไล่หนีออกจากบ้าน

น.ส.แอน บอกอีกว่า สาเหตุที่มานอนตรงนี้เพราะไม่มีบ้านอยู่ พี่ชายไล่หนี เขาบอกว่าไม่มีเงินไม่ต้องอยู่ จึงพาลูกออกมาจากบ้าน ตอนแรกหอบเสื้อผ้าพาลูกชายจะไปรับจ้างกรีดยางกับพี่คนรู้จัก แต่พี่บอกว่าตอนนี้ปิดหน้ายางอยู่เลยไม่ให้อยู่ จึงพาลูกชายมาขอนอนที่ศาลากลางบ้าน ส่วนเรื่องกินเหล้ากินเบียร์ก็มีบ้าง อย่างเวลาตั้งวงกินเหล้า มีต้มไก่ หากไม่ยกเหล้าก็เกรงใจความรู้สึกของคนในวง เรื่องยาบ้ายอมรับเสพบ้า เคยเสพมาตั้งแต่เด็ก ดมกาวก็เคยลอง  จึงอยากจะอยู่แบบนี้ หาเลี้ยงกันเองสองคนกับสองแม่ลูก  ลูกชายเลยไม่ได้เรียนหนังสือเลยต้องเอามาอยู่ด้วย

น้องเฟรม อายุ 8 ขวบ บอกว่า อยากเรียนหนังสือครับ แต่แม่พามาอยู่ด้วยไปไหนก็ต้องไปกับแม่ ผมไม่ได้ไปโรงเรียนเพราะครูบอกว่า ไม่มีรายชื่อในโรงเรียน เลยไม่ได้ไปโรงเรียนครับ แม่พามาด้วยก็เลยต้องมากับแม่ ผมก็อยากเรียนหนังสืออยู่ครับ

ชาวบ้านบอกว่า เห็นหญิงคนนี้พาลูกมานอนศาลากลางบ้าน 4 วันแล้ว ทราบว่าเป็นคนบ้านศรีเมือง เท่าที่รู้เห็นว่าแม่กินเหล้าทุกวัน  สงสารเด็กน่าจะได้เรียนหนังสือ แต่นี่ต้องติดตามแม่ ไปไหนไปนั่น เวลาเมาก็ต้องนั่งเฝ้าแม่อดหลับอดนอนทุกวัน

ต่อมา ตร.สายตรวจ สภ.ดงเย็น จึงอาสาไปส่งที่บ้านศรีเมือง พบว่า มีแม่ของน.ส.แอนและพี่ชายอยู่ด้วย โดยพี่ชายเล่าสาเหตุ เพราะน้องสาวติดเหล้าติดยาไม่ทำงาน ตนเองก็เคยบอกว่า เรื่องหาเงินทำกับข้าวตนเองจะหาเอง ขอแค่ล้างถ้วยล้างจาน แต่น้องสาวไม่ทำ ตนเองจำเป็นต้องไล่หนี กินแต่เหล้าเมาแต่ยา ตร.และผู้ใหญ่บ้านจึงเกลี้ยกล่อมให้อยู่บ้านหลังนี้ก่อน และจะได้ประสาน พมจ.อุดรธานีให้การช่วยเหลือเด็กในเรื่องเรียนหนังสือต่อไป