ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรชนแดน แจ้งความถูกขโมยข้าวเปลือก หายออกไปจากโกดัง จำนวนราว 100 ตัน สงสัยอดีตรปภ. ก่อเหตุ - ด้าน อดีตรปภ. ปฏิเสธไม่รู้เรื่อง ส่วนคนขับรถถูกว่าจ้างมาอีกที
(14 มี.ค.68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชนแดน รับแจ้งจาก ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรชนแดน ว่า ถูก อดีตเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสหกรณ์ พร้อมพวกร่วมกันก่อเหตุขโมยข้าวเปลือกออกจากโกดัง ไปจำหน่าย เบื้องต้น คาดมีข้าวเปลือกหายออกไปจากโกดัง จำนวนราว 100 ตัน
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน สภ.ชนแดน ได้ทำการติดตามจนทราบว่า นายอำนวย อายุ 53 ปี ได้ขับรถยนต์กระบะ สีเขียวแบบมีคอก และรถยนต์กระบะสีขาว เข้ามาขนข้าวเปลือกออกไปจากโกดังของสหกรณ์การเกษตร เพื่อไปจำหน่ายยังโรงรับซื้อพืชไร่แห่งหนึ่งในอำเภอชนแดน
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ แต่ นายอำนวย ให้การปฎิเสธ พร้อมยืนยันว่า ตนเองไม่มีส่วนร่วมหรือรู้เห็นกับเหตุการณ์เรื่องขโมยข้าวเปลือก แต่ตนเองได้รับการว่าจ้าง จากนายนที ให้มาขนข้าวเปลือกออกจากโกดังเพื่อนำไปจำหน่าย ให้กับโกดังรับซื้อพืชไร่แห่งหนึ่ง เท่านั้น โดยได้รับค่าจ้างเที่ยวละ 2,500 บาท เป็นค่ารถ 1,000 ค่าแรง 1,000 ค่าน้ำมันรถ อีก 500
นายอำนวยบอกอีกว่า ตนเองมาลากข้าวเปลือกไป 30 กว่าเที่ยว ขนไปขายครั้งละประมาณ 1 ตัน โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นการลักขโมย เพราะรถที่ใช้ตักก็เป็นรถที่อยู่ในสหกรณ์ นายนทีเป็นคนขับรถตักเอง ซึ่งนายนที ได้บอกกับตนเองว่า ไม่มีปัญหา ไม่มีอะไรหรอก ตนเองก็ไม่ได้เอะใจ ในโกดังก็มีกล้องวงจรปิด
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ ซึ่งตนให้การปฏิเสธ ซึ่งถ้าร่วมกันลักทรัพย์ถ้าไปขายมาก็ต้องเอาเงินมาแบ่งกันแต่นี่ตนเองได้เพียงแค่ค่าจ้าง
ด้าน นายนที อดีตเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กล่าวว่า ตนเองเป็นพนักงานสีข้าวทำงานทั่วไป และเฝ้าเวรยามกลางคืน ข้าวที่หายไปประมาณ 40 ตัน ดป็นข้าวเปลือกที่กองไว้กับพื้น ตนเองมาทราบเรื่องข้าวหาย ตอนที่ออกจากงานแล้ว เพราะคนข้างในมาบอก
สำหรับโกดังเก็บข้าว มีเพียงเจ้าหน้าที่เข้าไปได้เพราะเขามีกุญแจ ตนมองว่ายังไงก็ขนออกไม่ได้ ถ้าขนออก 40 เกวียน จะต้องใช้รถ ขนาดใหญ่หรือเป็นรถพ่วง เบื้องต้น ตนทราบว่า ทางสหกรณ์ เชื่อว่าผู้ก่อเหตุขโมยเป็นตนเอง ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบ ในส่วนของลูกกุญแจนั้น ตนเองไม่ได้ถือแต่เป็นเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ถือเอาไว้ นอกจากจะมีงานมาทำถึงให้ลูกกุญแจตนมาเปิด ยืนยันว่าเรื่องข้าวหายนั้น ตนเองไม่รู้เรื่องเพราะก่อนที่ตนเองจะออกมานั้น ทางสหกรณ์ก็ไม่ยอมเปิดฉาง