ผบช.สตม. ลงพื้นที่แม่ฮ่องสอน เข้มต่างชาติป่วน อ.ปาย ไม่เกรงกฎหมายไทย สั่งตำรวจ ตม. จับตาคนอิสราเอล-รัสเซีย ขออยู่ต่อในพื้นที่มากเป็นพิเศษ หากก่อความเดือดร้อน ให้เพิกถอน ลงแบล็กลิสต์ ส่งกลับทันที
วันนี้ (14 มี.ค. 68) ที่ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ลงพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน วางมาตรการเข้มงวดในการตรวจสอบเอกสารกลุ่มสัญชาติเป้าหมายหากพบมีพฤติการณ์ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ หรือ สร้างความเดือดร้อนกับพี่น้องประชาชน ให้สืบสวนจับกุม บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด เพิกถอนการให้อยู่ในราชอาณาจักร ผลักดันส่งกลับทันที
พล.ต.ท.ภาณุมาศ กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตม. เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเอกสารของบุคคลต่างด้าว โดยเฉพาะที่เข้ามาในพื้นที่ อ.ปาย ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ได้รับความสนใจจากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ มักปรากฏปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนไทยกับคนต่างด้าวตามสื่ออยู่บ่อยครั้ง จึงต้องมีการวางมาตรการร่วมกับหน่วยงานปกครองท้องถิ่นในพื้นที่ โดยให้มีการปรับปรุงข้อมูลท้องถิ่นทั้งบุคคลและสถานที่ให้เป็นปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลต่างด้าวสัญชาติที่ควรเฝ้าติดตามพฤติการณ์อย่างใกล้ชิด อย่าง อิสราเอล และ รัสเซีย ที่มีการขออยู่ต่อในพื้นที่มากเป็นพิเศษ
ทั้งนี้หากพบว่าคนต่างชาติ รายใดหรือกลุ่มใด มีพฤติกรรมไม่เกรงกลัวกฎหมายไทย สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้ดำเนินคดี ทำเรื่องเพิกถอนการอนุญาตการให้อยู่ในราชอาณาจักร พร้อมลงแบล็กลิสต์ บุคคลต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักรทุกราย อย่างไรก็ตามได้มีการดำเนินการประชาสัมพันธ์ และตรวจสอบการแจ้งการรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัยภายใน 24 ชั่วโมง ตาม มาตรา 38 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ กับสถานที่พักประเภทต่าง ๆ โรงแรม ในพื้นที่ให้ครบถ้วนโดยเร็ว หากพบว่ามีเจ้าของที่พักไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ให้บังคับใช้กฎหมายเด็ดขาด ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการสืบสวนติดตามตัวบุคคลต่างด้าวได้อย่างรวดเร็ว
ผบช.สตม. บอกด้วยว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ สตม. วางมาตรการป้องกันคนต่างด้าวที่เข้ามาก่อปัญหา สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนชาวไทย มีพฤติกรรมไม่เกรงกลัวกฎหมาย ให้ดำเนินการเด็ดขาด ทุกราย หากประชาชนพบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูลมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
