สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ดังนี้

View icon 382
วันที่ 17 มี.ค. 2568 | 20.02 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
เวลา 08.56 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังลานสวนสนาม ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี พระราชทานพระราชวโรกาสให้ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า กราบบังคมทูลรายงานการฝึกภาคสนามของนักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 1-4 ประจำปีการศึกษา 2567 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 มกราคมเป็นต้นมา เพื่อให้นักเรียนนายร้อยมีความรู้ ความสามารถด้านการทหาร เสริมสร้างคุณลักษณะผู้นำ และเพื่อตรวจสอบประเมินผลการฝึก ส่วนการฝึกวิชาทหารม้าของนักเรียนนายร้อย ชั้นปีที่ 3 รุ่นที่ 74 จำนวน 325 นาย เข้ารับการฝึกวิชาทหารม้า ณ พื้นที่ฝึกศูนย์การทหารม้า ห้วงวันที่ 10-27 มีนาคม 2568 แบ่งการฝึกเป็น 2 ห้วง คือ ห้วงที่ 1 การฝึกพื้นฐานเป็นบุคคล และห้วงที่ 2 การฝึกทางยุทธวิธีระดับหมวด จำนวน 3 สถานี ประกอบด้วย การฝึกทางยุทธวิธีของหมวดทหารม้าลาดตระเวน, หมวดทหารม้ารถถัง และหมวดทหารม้าบรรทุกยานเกราะ

โอกาสนี้ ทอดพระเนตรการฝึกการจัดหมวดทหารม้า 3 ประเภท ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของศูนย์การทหารม้า ได้แก่ หมวดลาดตระเวน, หมวดรถถัง และหมวดทหารม้า บรรทุกยานเกราะ โดยมีนักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 3 เป็นผู้ปฏิบัติในทุกตำแหน่ง

สำหรับยานรบ 9 คันแรก เป็นยานรบของหมวดลาดตระเวน ประกอบด้วย รถยนต์บรรทุกขนาดกลางแบบฮัมวี่, รถถังเบา แบบ 21 สกอร์เปี้ยน และรถสายพานลำเลียงพล เอ็ม 113 ต่อมา เป็นรถถังของหมวดรถถัง ประกอบด้วย รถถัง เอ็ม 60 เอ 3 จำนวน 4 คัน และรถสายพานลำเลียงพล ของหมวดทหารม้าบรรทุกยานเกราะ ประกอบด้วย รถสายพานลำเลียงพล เอ็ม 113 จำนวน 4 คัน

โดยทหารม้าลาดตระเวน มีภารกิจหลักในการลาดตระเวน เพื่อหาข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับภูมิประเทศและข้าศึก ตามที่หน่วยเหนือต้องการ และภารกิจในการระวังป้องกัน เพื่อแจ้งเตือนการเข้ามาของข้าศึก โดยหมวดลาดตระเวน จะมีทั้งอาวุธยิงเล็งตรง และอาวุธยิงเล็งจำลอง เพื่อให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้หลากหลาย หมวดลาดตระเวน จะมีกำลังพล รวม 37 นาย

ทหารม้ารถถัง ใช้รถถังเป็นยานรบหลัก มีภารกิจหลักในการทำลายรถถังข้าศึก ที่มั่นแข็งแรง มักจะปฏิบัติการร่วมกับทหารม้าบรรทุกยานเกราะ ในหมวดรถถัง

ทหารม้าบรรทุกยานเกราะ มีภารกิจหลักในการเข้ายึดที่หมาย ตรวจค้น จับเชลย และเข้ายึดรักษาพื้นที่ และมักจะใช้ปฏิบัติการร่วมกับหน่วยรถถัง

จากนั้น ทอดพระเนตรการดำเนินการฝึกวิชายุทธวิธีทหารม้าระดับหมวด ซึ่งกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ฯ เป็นหน่วยรับผิดชอบการฝึกฯ ให้กับนักเรียนนายร้อย รวม 6 วัน แบ่งสถานีฝึกออกเป็น 3 สถานี ได้แก่ สถานีหมวดทหารม้ารถถัง รับผิดชอบโดย กองพันทหารม้าที่ 5 กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์, สถานีหมวดทหารม้าบรรทุกยานเกราะ รับผิดชอบโดยกองพันทหารม้าที่ 25 กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ และสถานีหมวดทหารม้าลาดตระเวน รับผิดชอบโดย กองพันทหารม้าที่ 27 ใช้สนามยิงปืนทราบระยะ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ฯ และสนามฝึกทางยุทธวิธี มณฑลทหารบกที่ 18 (เขาสูง) เป็นพื้นที่การฝึก ดำเนินการฝึก แบ่งนักเรียนนายร้อยออกเป็น 3 กลุ่ม เรื่องที่ทำการฝึกในแต่ละสถานี ได้แก่ ภารกิจ, ขีดความสามารถ, การจัดหน่วย, การออกคำสั่งยุทธการ, การปฏิบัติตามระเบียบการนำหน่วย 8 ข้อ, การปฏิบัติในที่รวมพล, การปฏิบัติทางยุทธวิธี, การเคลื่อนที่ทางยุทธวิธี และรูปขบวนทำการรบของหมวดทหารม้าแต่ละประเภท เพื่อให้นักเรียนนายร้อย มีความคุ้นเคยกับยุทโธปกรณ์ หลักนิยมการยุทธ์ของเหล่าทหารม้า และการปฏิบัติตามระเบียบการนำหน่วย อันจะเป็นประโยชน์กับนักเรียนนายร้อยเมื่อจบการฝึก และเป็นพื้นฐานความรู้สำหรับใช้ปฏิบัติราชการต่อไป

เวลา 15.00 น. เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นางสาวพาศิกา สุวจันทร์ นายกสมาคมปกป้องพระพุทธศาสนา และคณะ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย ในโอกาสนี้ พระสงฆ์ ร่วมเฝ้าด้วย

พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ประธานกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์โบราณสถาน ในพระราชวังเดิม นำคณะกรรมการมูลนิธิฯ และคณะกรรมการจัดการแข่งขันกอล์ฟการกุศล เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินรายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดการแข่งขันฯ โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย พร้อมทั้งขอพระราชทานพระราชดำริในการดำเนินงานอนุรักษ์โบราณสถานในพระราชวังเดิม เพื่อให้อาคารโบราณสถานคงอยู่ในสภาพที่ดีอย่างยาวนาน

พลเอก สิทธิ์ สิทธิมงคล นายกสมาคมศิษย์เก่าสวนสุนันทา ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และคณะ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินรายได้จากการออกร้านในงานกาชาด ประจำปี 2566 เพื่อบำรุงสภากาชาดไทย

ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์อาทิตย์ อังกานนท์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธิรามาธิบดี ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และคณะ นำ คณะบุคคล เฝ้าทูลละอองพระบาท ดังนี้

- คณะผู้บริหารบริษัท ดีเอสจี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน สมทบทุนโครงการเพื่อผู้ป่วยยากไร้ และสมทบทุนการจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ มูลนิธิรามาธิบดี ในพระราชูปถัมภ์ฯ

- คณะผู้บริหารมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน สมทบทุนโครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีและย่านนวัตกรรมโยธี

นายสุวิศว์ เมฆเสรีกุล นายกสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำคณะกรรมการจัดการแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศลชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินรายได้ จากการจัดการแข่งขันฯ โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์สรรเสริญ มิลินทสูต รองอธิการบดีอาวุโสด้านวิชาการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ นำคณะผู้บริหารและผู้นำนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน เพื่อบำรุงสภากาชาดไทย

นางสาวปราศรัย ประวัติรุ่งเรือง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีสยามบริหารธุรกิจ นำคณะผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยามบริหารธุรกิจ สะพานใหม่ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยามบริหารธุรกิจ นนทบุรี โรงเรียนสยามคอมพิวเตอร์และภาษา และโรงพยาบาลนอร์ทเมด เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2568 พร้อมทั้งทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายทุนการศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยีสยามบริหารธุรกิจ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และทุนการศึกษามหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ระดับปริญญาโท

นายชยุต พันธุ์แก้วทอง กรรมการผู้จัดการบริษัท ทรามส์วัฒนา อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด นำคณะผู้บริหารและพนักงานบริษัทฯ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน สมทบกองทุนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร

นางวิลาวัลย์ พันธุ์แก้วทอง กรรมการผู้จัดการบริษัท บิลเลี่ยน เจ กรุ๊ป จำกัด นำคณะผู้บริหาร และพนักงานบริษัทฯ เฝ้าทูลละอองพระบาทท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย

นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล กลุ่มบริษัทเอไอเอส และกลุ่มอินทัช พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการแข่งขันโครงการ "จัมพ์ ไทยแลนด์ แฮกกาทอน 2024" ประจำปี 2567 ชิงโล่พระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าทูลละอองพระบาท กราบบังคมทูลรายงานการจัดการแข่งขันฯ ในโอกาสนี้ ผู้ชนะเลิศการแข่งขันฯ ร่วมเฝ้าทูลละอองพระบาทด้วย

ศาสตราจารย์ นายแพทย์พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปรีดา พิชยาพันธ์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และประธานวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สาขาภาคเหนือ 1 (เชียงใหม่) นำคณะผู้บริหารวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สาขาภาคเหนือ 1 (เชียงใหม่) และผู้บริหารมูลนิธิพัฒนามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เฝ้าทูลละอองพระบาท กราบบังคมทูลรายงานโครงการสร้างอากาศสะอาดให้พี่น้องพื้นที่สูง โดยได้จัดทำห้องปลอดมลพิษทางอากาศให้แก่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเบญจมะ 1 อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ และโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบำรุงที่ 92 อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2568 ในโอกาสนี้ อาจารย์ไพศาล จั่วทอง อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมเฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน สมทบทุนมูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาด้วย

เวลา 17.20 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังศาลา 2 วัดมกุฏกษัตริยาราม ในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ นายวารินทร์ บุษบรรณ ซึ่งถึงแก่อนิจกรรมเนื่องจากติดเชื้อในกระแสโลหิต เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2568 สิริอายุได้ 84 ปี

นายวารินทร์ บุษบรรณ เกิดเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2483 เป็นบุตรของนายเพิ่ม กับนางป้อย บุษบรรณ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านการเกษตร ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในระหว่างรับราชการได้ศึกษาเพิ่มเติมในระดับปริญญาตรีด้านส่งเสริมการเกษตรและสหกรณ์ ที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เริ่มเข้ารับราชการครั้งแรกปี 2506 ในตำแหน่งผู้ช่วยกสิกรรมจังหวัดนราธิวาส สังกัดกรมกสิกรรม จากนั้นได้โอนย้ายไปรับราชการสังกัดกรมส่งเสริมการเกษตร ในตำแหน่งเกษตรตรี จังหวัดนราธิวาส และได้รับการแต่งตั้งเป็นเกษตรจังหวัดนราธิวาส เมื่อปี 2520 โดยมีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานตามลำดับ ปี 2536 ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการภาค สำนักงานส่งเสริมการเกษตรภาคใต้ จังหวัดสงขลา จนเกษียณอายุราชการในปี 2543 ระหว่างรับราชการ นายวารินทร์ เคยได้รับราชการสนองพระเดชพระคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบรมวงศานุวงศ์ ในด้านการเกษตรในโครงการพระราชดำริหลายโครงการ อาทิ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ, โครงการส่งเสริมการเกษตรในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ, โครงการพัฒนาพื้นที่บ้านยูโย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการหมู่บ้านปศุสัตว์เกษตรมูโนะ ในพระราชดำริ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง หลังเกษียณอายุราชการยังได้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ ที่ปรึกษาอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ด้านชีวิตครอบครัว สมรสกับ นางจินดา บุษบรรณ มีบุตรธิดา 2 คน

ข่าวอื่นในหมวด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง