เช้านี้ที่หมอชิต - จากงานรื่นเริงกลายเป็นความโศกเศร้า วัยรุ่นเจ้าถิ่นแค้นลูกผู้ใหญ่บ้านถูกทำร้าย หลังเลิกงานพาพวกไปแก้แค้น ยิงคู่กรณีจนเสียชีวิต
เป็นภาพเหตุการณ์ขณะกลุ่มผู้เสียชีวิตขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าบ้านพัก ของชาวบ้านในพื้นที่ ตำบลโพนสูง อำเภอไชยวาน จังหวัดอุดรธานี ระหว่างนั้นได้ถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุมีเรื่องเขม่นทำร้ายกันในงานหมอลำ ขี่รถจักรยานยนต์ 11 คัน ตามหาเรื่อง กลุ่มผู้ตายคนน้อยกว่า ต่างคนต่างวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ผู้ก่อเหตุชักปืนออกมายิงใส่กลุ่มผู้ตาย มีเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 3 นัด ก่อนจะหลบหนีไป
รุ่งเช้ามีคนพบศพ นายนรินธร ทองเจือ หรือ เสก อายุ 30 ปี นอนจมกองเลือดอยู่ในพงหญ้าหลังบ้านพักจุดที่เกิดเหตุ มีแผลถูกยิงที่หลัง 3 นัด หน้าท้อง 2 นัด และทะลุคอ 1 นัด
นายวีรพงษ์ อินทสร้อย หรือ ปอนด์ อายุ 28 ปี เจ้าของบ้าน บอกว่า ตอนเกิดเหตุไม่อยู่บ้าน ไปยิงหนูที่นา กลับมารุ่งเช้าถึงได้รู้ว่า นายเสก รุ่นพี่ ถูกยิงไปนอนเสียชีวิตที่บ้านของป้า ซึ่งให้ตนเองคอยดูแล เมื่อเดินตามรอยเลือดก็ได้พบรุ่นพี่อีกคนเดินโซเซออกมาจากข้างห้องน้ำ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนปมเหตุไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น
ตำรวจ สภ.ไชยวาน แกะรอยวงจรปิดทราบว่า มือปืนชื่อ นายพี อายุ 20 ปี หลังก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ตำรวจจึงไปเชิญเมียของนายพี ซึ่งมีลูกอ่อน อายุ 1 ขวบเศษ มาสอบปากคำกันทั้งน้ำตา ประสานแม่ให้ช่วยเกลี้ยกล่อมให้ นายพี มอบตัว
ไม่นานก็ตามจับ นายพี และ นายวุฒิชัย หรือ เจมส์ อายุ 20 ปี ที่หอพักในเขตเทศบาลนครอุดรธานี พร้อมยึดปืนสั้นขนาด 9 มม. ที่ใช้ก่อเหตุ ถูกนำไปทิ้งไว้ที่ไร่มันสำปะหลัง นำทั้ง 2 คน มาสอบสวนในสภาพคอตก
นายพี ยอมรับว่าเป็นคนยิงผู้ตาย อ้างว่า ไม่ได้เจตนา แค่ยิงสวนเพื่อป้องกันตัว ผู้กำกับการ สภ.ไชยวาน บอกว่า ปมเหตุมาจากลูกชายของผู้ใหญ่บ้านถูกทำร้ายในงานหมอลำ กลุ่มผู้ก่อเหตุแค้นแทนพี่ พาพวกขี่รถจักรยานยนต์ตามหาคู่อริ จนไปเจอกลุ่มผู้ตาย ขณะชุลมุน นายพี จึงชักปืนยิงใส่ผู้ตายไม่ยั้ง เบื้องต้น แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นฯ กำลังจะพิจารณาว่าเข้าข่ายเจตนาฆ่าหรือไม่
ต่อมาช่วงค่ำ ตำรวจตามจับกลุ่มผู้ก่อเหตุรวม 18 คน ที่ไปร่วมก่อเหตุทั้งหมด มาสอบสวนพิจารณาแจ้งข้อหา ในชั้นสอบสวนได้คัดค้านประกันตัว
ส่วนที่บ้านพักของ นายเสก ญาติ ๆ จัดเตรียมสถานที่เพื่อรอรับศพกลับมาบำเพ็ญกุศล บรรยากาศโศกเศร้า ป้าของนายเสก บอกว่า เสียใจมากที่หลานมาจบชีวิต ทั้งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการไปทำร้ายลูกชายของผู้ใหญ่บ้าน ปกติหลานไม่เคยออกไปเที่ยวงานหมอลำ แต่วันนั้นไม่รู้อะไรดลใจ สุดท้ายต้องมารับเคราะห์แทนคนอื่น
ญาติยังฝากให้ตำรวจเร่งติดตามผู้ก่อเหตุมารับโทษให้ถึงที่สุด เพราะก่อเหตุอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย แค่เขม่นชกต่อยกัน ไม่น่ามายิงกันตายขนาดนี้
