อุทยานแห่งชาติศรีลานนาไอเดียแจ่ม ผุดอาชีพไกด์นำเที่ยวให้กับชาวบ้าน แทนการหาของป่า เพื่อแก้ปัญหาให้การเผาป่าลดน้อยลง
วานนี้ (17 มี.ค. 68) นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาอุทยานแห่งชาติ ที่ ห้องประชุมอุทยานแห่งชาติศรีลานนา อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันประชุมหารือและพิจารณาเห็นชอบในการตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาอุทยานแห่งชาติศรีลานนาชุดใหม่มาแทนคณะกรรมการฯ ชุดเดิมที่ได้ครบวาระการดำรงตำแหน่งไปแล้ว เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่คุ้มครอง ตามแนวทางการจัดตั้งคณะกรรมการระดับพื้นที่ (PAC)
พร้อมทั้งได้มีการติดตามภารกิจในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และภารกิจด้านการจัดการท่องเที่ยวและศึกษาวิจัยของอุทยานแห่งชาติศรีลานา ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม - มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยในส่วนของการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ พบว่า ตั้งแต่เริ่มปี 2568 มีการดำเนินคดีไปแล้ว จำนวน 10 คดี ประกอบด้วยคดีบุกรุกพื้นที่ จำนวน 6 คดี และคดีทำไม้ จำนวน 4 คดี ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับการลักลอบตัดไม้มีค่า โดยเฉพาะไม้ประดู่ที่เป็นที่ต้องการของนายทุนต่างชาติ
โดยด้านการปฏิบัติการควบคุมไฟป่า อุทยานแห่งชาติศรีลานาได้ยึดหลักปฏิบัติตามประกาศของจังหวัดเชียงใหม่ คือ ห้ามไม่ให้มีการเผาในพื้นที่ จึงได้วางแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาโดยการทำแนวกันไฟเตรียมไว้ล่วงหน้า พร้อมทั้งจัดกำลังพลออกลาดตระเวนเฝ้าระวังตามยุทธการเสือเฝ้าป่าตลอด 24 ชั่วโมง มีจุดเฝ้าระวังเพื่อคัดกรองคนนอกพื้นที่ไม่ให้เข้ามากระทำผิด ถึง 17 จุด มีการประชาสัมพันธ์เชิงรุกเพื่อสร้างความเข้าใจถึงประโยชน์จากการไม่เผา และโทษของการเผาป่า รวมถึงหาอาชีพทางเลือกทดแทนให้กับชาวบ้านที่มีอาชีพหาของป่า ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีจากชาวบ้านในพื้นที่ ทำให้ในปีนี้มีจุดความร้อนเกิดขึ้นในพื้นที่เพียง 137 จุด ในขณะที่ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี มีจุดความร้อนเกิดขึ้นถึง 1,064 จุด ส่วนเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ ต้องไม่เกิน 851 จุด ตลอดระยะในช่วงควบคุมไฟป่าของปีนี้
ขณะที่ในด้านการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติศรีลานา ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะเข้ามาท่องเที่ยวในที่ท่องเที่ยวหลัก 2 แห่ง คือ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชน อ.แม่แตง และ ดอยม่อนล้าน อ.พร้าว แต่เมื่อช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ได้เกิดมรสุม ทั้งฝนตกหนัก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วม จนส่งผลต่อเนื่องทำให้ 3 เดือนแรกของปี 2568 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวค่อนข้างน้อย จึงต้องมีการจัดทำแผนที่แหล่งท่องเที่ยวข้างเคียงรอบอุทยานฯ รองรับ
ขณะเดียวกันได้มีการสร้างอาชีพใหม่ให้กับชาวบ้านในพื้นที่เพื่อเป็นอาชีพทดแทนการหารายได้จากของป่าที่ใช้วิธีการเผา คือ กิจการเรือนำเที่ยวภายในเขื่อนแม่งัดฯ ทั้งเรือสปีดโบ๊ท เรือคิว และเรือประมงพื้นบ้าน โดยให้ชาวบ้านมาลงทะเบียนเป็นไกด์นำเที่ยวที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องกับทางอุทยานฯ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะที่ต้นฉำฉา หรือ ต้นจามจุรีกลางน้ำ แลนด์มาร์ดยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวต้องนั่งเรือมาชมและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ชาวบ้านมีรายได้จากการท่องเที่ยวในส่วนนี้นับล้านบาท
.
ขณะเดียวกันผู้ว่าราชการจังหวัดจังหวัดเชียงใหม่ ยังได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมทั้งนำสิ่งของและเครื่องดื่มไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ประจำจุดเฝ้าระวังไฟป่าในพื้นที่อีกด้วย