รวบสาวชักดาบค่ากล้วยกับแตงโม ยอมจ่ายเงินแล้ว อ้างไม่ได้ตั้งใจหนี ตำรวจจับตรวจปัสสาวะพบฉี่สีม่วง ยอมรับเคยเสพยาบ้าวันละ 20 เม็ด แต่หลังตั้งท้อง ได้ 3 เดือน ลดลงเหลือวันละ 1-2 เม็ด
วันที่ 18 มี.ค.68 จากกรณี น.ส.ณัฐกฤตา อายุ 39 ปี ชาวบุรีรัมย์ แม่ค้าขายของริมทางถนนสายบ้านศรีสง่า – โนนแดง นำคลิปวงจรปิดมาร้องสื่อ เพื่อเป็นอุทาหรณ์และแจ้งเตือนบรรดาแม่ค้าให้ระวัง 2 สามีภรรยา ที่มักจะแกล้งไปซื้ออาหารจากร้านค้า ประมาณ 50-200 บาท แล้วเชิดหนีไม่ยอมจ่ายเงิน ซึ่งคาดว่าเป็นการตั้งใจเพราะมีร้านค้าหลายร้านค้าในเขต อ.หนองหงส์ และอ.หนองกี่ แชร์ประสบการณ์ ในกลุ่มเพจว่าถูก 2 สามีภรรยาทำในลักษณะเดียวกัน และคาดว่าทั้ง 2 คน น่าจะรู้ดีว่าไม่มีใครไปแจ้งความ เพราะมูลค่าสินค้าไม่มาก ประกอบกับอ้างว่าตั้งท้อง ทำให้ผู้เสียหายทุกคนยกให้ ถือเป็นการทำบุญ
แต่นางสาวรัฐกฤตา ไม่ยอมนำคลิปวงจรปิดไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้ หลังทราบว่ามีผู้เสียหายหลายรายและอยากให้เป็นการแจ้งเตือนบรรดากลุ่มแม่ค้า เพราะคิดว่าจะต้องไปก่อเหตุอีก หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.อดิศักดิ์ จันทร์สอน ผกก.สภ.หนองหงส์ สั่งการให้ชุดสืบสวน ไปติดตามและเชิญตัวนางสาวประทีป อายุ 41 ปี และนายวิเชียร อายุ 41ปี สามีภรรยาที่ปรากฏในภาพวงจรปิด มาพบที่ สภ.หนองหงส์ พร้อมกับแจ้งผู้เสียหายมาชี้ตัวว่าเป็นคนเดียวกันหรือไม่
เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายมาเจอหน้ากัน นางสาวประทีป ได้ควักเงินจำนวน 140 ที่ติดค้างไว้จ่ายให้กับนางสาวณัฐกฤตา แม่ค้าขายของริมทางทันที โดยนางสาวณัฐกฤตา ไม่ติดใจเอาความ แต่ได้ว่ากล่าว สั่งสอนว่าไม่อยากให้ทำแบบนี้อีก ขณะที่น.ส.ประทีป ยืนยันว่าไม่ได้โกง แต่กลับมาจ่ายเงินไม่ได้ เพราะรถจักรยานยนต์เสีย
ขณะที่ตำรวจตรวจปัสสาวะ สามีภรรยา พบว่าเป็นสีม่วง ซึ่งน.ส.ประทีป ยอมรับว่าเสพจริงแต่เสพไม่มาก ครั้งล่าสุดเสพในวันฉลองงานวันเกิดเพื่อนเพียงนิดเดียว แล้วรีบหนีเพราะตั้งท้องได้ 3 เดือนกลัวกระทบถึงลูก แต่เมื่อถูกเค้นสอบถาม ก่อนจะยิ้มและหัวเราะ และตอบว่า ตอนที่ยังไม่ตั้งท้องเสพวันละ 20เม็ด หลังจากตั้งครรภ์จึงพยายามลดลง หลังสอบสวนตำรวจแจ้งข้อหา สามีภรรยา ฐานเสพยาเสพติด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป