เช้านี้ที่หมอชิต - จากประเด็นดรามาแอดมินเพจดัง ไลฟ์กดดันเจ้าหน้าที่นั่งจับความเร็ว จนช็อกหมดสติ วานนี้มีเสียงสะท้อนจากชาวบ้านเรื่องการตั้งด่านว่าอยากให้ยกเลิก ส่วนดาบตำรวจ วานนี้ถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจแล้ว
ส่ง ด.ต. ช็อกคาไลฟ์ รักษาที่ รพ.ตำรวจ
รถฉุกเฉินโรงพยาบาลตำรวจเดินทางไปรับตัว ดาบตำรวจศุภมิตร ผบ.หมู่งานจราจร สภ.พรหมบุรี ที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี เพื่อส่งมารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ หลังช็อกหมดสติ ขณะแอดมินเพจดังเข้าไปไลฟ์เฟซบุ๊กกดดัน ตำหนิเรื่องการแต่งกาย และการทำหน้าที่ของตำรวจที่มานั่งตั้งกล้องจับความเร็ว ประกอบกับอากาศร้อนทำให้ ดาบตำรวจศุภมิตร เครียดเกิดอาการสโตรก
นางพิมพ์พัฒน์ ภรรยา ของ ด.ต.ศุภมิตร ระบุว่า ผลสแกนสมองพบมีเลือดซึมทำให้สมองบวม แต่เส้นเลือดไม่ตีบ ยังมีอาการกล้ามเนื้อด้านขวาอ่อนแรง
สามีมีโรคประจำตัวความดันสูง เมื่อ 10 ปีที่แล้วเคยวูบมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่หลังจากนั้นไม่มีอาการ จึงไม่ได้ตรวจอย่างละเอียด
ส่วนเรื่องการทำงาน สามีไม่เคยบ่นว่าถูกกดดัน แม้จะมีแอดมินเพจฯ มาป่วนหลายครั้ง ก็บอกว่าอดทนได้ และไม่เคยตอบโต้ แต่วันเกิดเหตุถูกแอดมินและพวก 3 คน รุมตำหนิ เชื่อว่าเป็นเหตุทำให้สามีเครียดจนทนไม่ไหว
ยันด่านตรวจ ไม่ได้แค่จับความเร็ว
ผู้กำกับการ สภ.พรหมบุรี ในฐานะผู้บังคับบัญชา คอยมาดูแล ด.ต.ศุภมิตร ยืนยันจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องการรักษา และการดำเนินคดีกับแอดมินเพจฯ ที่มาไลฟ์กดดัน ซึ่งไม่อยากให้เกิดเหตุแบบนี้อีก
ส่วนวิธีการตรวจจับความเร็ว ถามว่าใช้กล้องอัตโนมัติดีกว่าไหม ผู้กำกับการฯ บอกว่า กล้องอัตโนมัติเมื่อใบสั่งส่งไปที่บ้าน หลายเคสไม่ชำระค่าปรับ ส่วนจุดตรวจพรหมบุรี ก็ไม่ได้จับความเร็วเพียงอย่างเดียว ที่ผ่านมาสามารถจับผู้กระทำความผิดกฎหมายหลายคดี มีผลงานเป็นที่ประจักษ์
ด้าน พันตำรวจเอก เอกราช หุ่นงาม หรือ สารวัตรเอก อดีตนายตำรวจดังในโซเชียล ปัจจุบันลาออกมาทำงานที่สภา โพสต์แสดงความเห็นถึงเรื่องนี้ว่า “มองกันลึก ๆ ไม่ควรออกมาพูดจะเอาผิดประชาชนชน ทั้งที่พูดอยู่ว่าทำได้ ทำไมไม่คิดถึงเรื่องการดูแลสุขภาพตำรวจว่าผู้บังคับบัญชาเคยใส่ใจดูแลความเจ็บไข้ได้ป่วยของเขาดีพอหรือยัง อาการแบบนี้หนักพอสมควร ไม่ใช่โรคที่เป็นแบบปัจจุบันทันด่วน ต้องเป็นนานพอสมควรแล้ว ถ้าตำรวจไทยโดนคำพูดกดดันเพียงเท่านี้ แล้วถึงกับทนไม่ได้จนสลบ เข้าโรงพยาบาลแบบนี้ แล้วจะไปปราบโจรผู้ร้ายที่ไหนได้”
จากการไลฟ์กดดันเจ้าหน้าที่จนช็อกหมดสติ "ทนายเดชา" มองว่า มีความผิดฐานสร้างความเดือดร้อนรำคาญ ซึ่งเป็นความลหุโทษ ปรับไม่เกิน 5,000 บาท ส่วนความผิดฐานขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ต้องดูองค์ประกอบอื่นเช่น เกิดขอบเขตห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ที่เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่อยู่หรือไม่ ถ้าเตือนแล้วไม่ทำตาม อาจเข้าข่ายความผิด
ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดตรวจพรหมบุรี ตั้งอยู่บนถนนสายเอเชีย ขาขึ้นเหนือ บริเวณหน้าวัดอัมพวัน ของหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม พบยังมีการตั้งด่านตรวจจับความเร็วตามปกติ มีผู้กระทำความผิด ได้รับใบสั่ง เสียค่าปรับ 500 บาท หลายราย
ไปฟังเสียงสะท้อนจากชาวบ้านที่อยู่ใกล้ด่านต่างบอกเป็นเสียงเดียวกัน ไม่อยากให้ตำรวจไปซุ่มยิงความเร็ว อยากให้ตั้งกล้องให้ชัดเจน อยากให้ยกเลิกด่าน การมาตั้งด่านตั้งแต่ 06.00 น. ยันถึงตอนบ่าย ทำให้รถติด
สำหรับการตั้งด่านตรวจวัดความเร็วหรือด่านตรวจจับสิ่งผิดกฎหมาย ตำรวจให้ข้อมูลว่าสามารถทำได้ แตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ หากประชาชนเห็นว่าการตั้งด่านไม่เหมาะสมก็สามารถทำหนังสือร้องเรียน หรือแจ้งท้องที่ให้ดำเนินการตรวจสอบได้