"ภูมิธรรม-ทวี" กลับถึงไทยแล้ว ไม่หวั่นฝ่ายค้านซักฟอกปมร้อนส่งกลับ "อุยกูร์" ลั่นพร้อมแจงทุกประเด็น
วันนี้ (21 มี.ค.68)เวลาประมาณ 03.10 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ คณะ เดินกลับทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) แล้ว หลังไปติดตามความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ 40 คน ซึ่งถูกส่งตัวกลับเมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา ณ เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ สาธารณรัฐประชาชนจีน
โดยภารกิจในประเทศจีนระหว่างวันที่ 19-20 มีนาคมที่ผ่านมา นายภูมิธรรม และ พันตำรวจเอก ทวี ได้แบ่งกันเดินสาย ระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร เพื่อไปพบกับชาวอุยกูร์ ทั้งล็อตแรก ที่ถูกส่งตัวกลับเมื่อปี 2558 จำวนวน 1 คน และ ล็อตล่าสุด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 14 คน รวมทั้งหมด 15 คน แบ่งเป็นไปพบด้วยตนเอง 6 คน และ พบผ่านการประชุมทางไกล 9 คน สื่อสารกัน ผ่านล่ามภาษาอุยกูร์ แปลเป็นภาษาจีน และภาษาไทยตามลำดับ
ข้อมูลส่วนใหญ่จากการพูดคุย พบว่า ถูกชักจูงด้วยข้อเสนอคุณภาพชีวิต และ ความเป็นอยู่จะดีขึ้น หากออกไปทำงานต่างประเทศ แต่สุดท้ายกลายเป็นถูกหลอก และถูกจับกุมขุมขังนานนับ 10 ปี โดยที่ญาติไม่รู้ชะตากรรม
ขณะถูกกักขังในไทย ไม่มีการเขียนจดหมายเพื่อมาขอความช่วยเหลือ เพราะบางคนไม่ได้เรียนหนังสือ ไม่สามารถ สื่อสารด้วยการเขียน และ ยืนยันไม่ได้ถูกทำร้าย รวมทั้ง บางคนยอมรับว่า มีส่วนในการตัดสินใจ เดินทางกลับ จีนด้วยตนเอง แม้จะมีความกังวล ว่าอาจได้รับโทษเมื่อกลับมาถึงบ้าน แต่ก็ยังดีกว่าที่จะอยู่ในไทยอย่างไม่รู้อนาคต
สำหรับชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ หลังเดินทางถึงจีน ผู้ที่มีอาการป่วยถูกส่งตัวเข้ารับการรักษา และรัฐบาลจีนดูแลค่าใช้จ่าย ส่วนผู้ที่สุขภาพแข็งแรง ถูกส่งตัวกลับบ้านทันที ไม่ได้ถูกกักตัว หรือ รับโทษแต่อย่างใด
โดยทางการจีน จัดทำบัตรประชาชนให้ใหม่ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือเรื่องอาชีพ ซึ่งส่วนใหญ่ กลับไปประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปลูกผลไม้กับครอบครัว บางคนกลับไปทำอาชีพเดิม เช่น พ่อครัวในร้านอาหารของญาติ มีความสุขและปลอดภัยดี
หลายครอบครัวหลั่งน้ำตา แห่งความดีใจที่ได้ลูกหลานคืน หลังจากหมดหวังและทำใจไปแล้ว ว่า อาจไม่มีโอกาสได้พบเจอกันอีก เพราะหายตัวไป โดยไม่ได้ติดต่อทางบ้านมากกว่า 10 ปี
ทั้งนี้ ทางการจีนและไทย ยืนยันว่า การตัดสินใจครั้งนี้ถูกต้องแล้ว และทุกอย่างได้ดำเนินการ ส่งตัวกลับ ตามหลักสากล โดยคำนึงถึงหลัก มนุษยธรรม และการไม่เปิดเผยใบหน้าถือเป็นการเคารพ ต่อสิทธิ ส่วนบุคคล ตามที่ชาวอุยกูร์ร้องขอเพราะต้องการใช้ชีวิตอย่างปกติสุข
แม้ประเด็นนี้จะถูกฝ่ายค้าน เตรียมนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในสภาผู้แทนราษฎร แต่ทั้งนายภูมิธรรม และพันตำรวจเอก ทวี ต่างยืนยันตรงกันว่า พร้อมที่จะชี้แจงในทุกประเด็น