ผู้การจังหวัดสมุทรปราการ ชี้ รองผู้กำกับฉาว ! ถูกอดีตภรรยาแฉ ทั้งเสพไอซ์ เล่นการพนัน และดื่มเบียร์ ในเวลาราชการ ถูกตั้งคณะกรรมสอบแล้ว หากผิดจริงต้องถูกไล่ออก
วันนี้ ( 24 มี.ค.68 ) จากกรณี รอง.ผกก.ตำรวจในจังหวัดสมุทรปราการ ถูกอดีตแฟนสาวร้องทนาย แฉคลิปฉาว เสพยา หลอกเงินครึ่งล้าน เล่นพนันในเวลาราชการ ซึ่งอดีตภรรยาออกมาร้องเรียน ที่สำนักงานกฎหมายนิติโชติวนิชย์ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี
นางสาวฟ้า (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี พนักงานต้อนรับโรงแรมแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสมุทรปราการ นำหลักฐานเอกสาร และอุปกรณ์เสพไอซ์ของอดีตแฟนหนุ่ม ที่คบหากันเกือบ 2 ปี ซึ่งเป็นตำรวจยศพันตำรวจโท ตำแหน่งรองผู้กำกับการ (สอบสวน) ในพื้นที่สมุทรปราการ เข้าร้องขอความเป็นธรรมจาก นายณธัชพงศ์ บุญเกิด หรือ “ทนายกบ” หลังแจ้งความดำเนินคดี และร้องเรียนเรื่องวินัย กับสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสมุทรปราการ แต่คดีไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่มีคลิปหลักฐานขณะเสพไอซ์ เล่นพนันออนไลน์ และดื่มเบียร์ในเวลาราชการ รวมถึงแอบถอนเงินจากบัญชี และยืมเงินไปกว่า 500,000 บาท
ล่าสุด พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒกุล ผู้บังบคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า พันตำรวจโทนายนี้ เป็นตำรวจในสังกัดของตรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการจริง โดยดำรงตำแหน่งรองผู้กำกับสอบสวน ที่ สภ.พระประแดง เรื่องราวที่เกิดขึ้น ต้องแยกเป็น 2 กรณี
กรณีแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 2566 อดีตภรรยา คือผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความเอาผิดเรื่อง ลักทรัพย์ เงินของผู้เสียหายไป ซึ่งพนักงานสอบสวนในสมัยนั้น มีการรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ และส่งสำนวนให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้อองร้องดำเนินคดีไปแล้ว ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของอัยการในการดำเนินการ
และกรณีที่ 2 เรื่องการร้องเรียนวินัย และปกครอง จากกรณีเล่นการพนันออนไลน์ และใช้สารเสพติด ซึ่งได้มีการตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยแล้วเช่นกัน โดยได้รับเรื่องและภาพหลักฐานจากผู้เสียหายเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา และอยู่ที่คณะกรรมการในการพิจารณาตามขั้นตอน ซึ่งตรงนี้ตนไม่สามารถเข้าไปก้าวล่วงคณะกรรมการได้ ส่วนเจ้าตัวขณะนี้ไปอบรมผู้กำกับ ซึ่งขาดจากตำแหน่งเดิมชั่วคราว จึงไม่ได้อยู่ในอำนาจการปกครองของตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ จะต้องรอให้อบรมกลับมาก่อน จึงมีการเรียกมาชี้แจงอีกครั้ง ส่วนประเด็นที่สังคม และผู้เสียหายเป็นห่วงเรื่องการใช้สารเสพติด อยากให้มีการตรวจหาสารในปัสสาวะ มั่นใจว่าคณะกรรมการทางวินัยได้ทำแล้วเช่นกัน ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย หากผิดจริงและมีการใช้สารเสพติดจริง ก็จะต้องถูกไล่ออกจากราชการ