ตำรวจประชุมติดตามความคืบหน้าเหตุนักศึกษา 2 สถาบัน ยกพวกรุมทำร้ายกันภายในห้างสรรพสินค้าย่านปทุมวัน ขณะตัวแทนห้างเตรียมแจ้งความดำเนินคดี
วันที่ 24 มี.ค. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.พร้อม พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 พ.ต.อ.ศิริชาติ จันทร์พรมมา ผกก.สน.ปทุมวัน พร้อมชุดสืบสวนนครบาล และบก.น.6, สน.ปทุมวัน พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมหารือกับตัวแทนสถานศึกษา ห้างสรรพสินค้าย่านราชประสงค์และปทุมวัน เพื่อแก้ไขปัญหาทะเลาะวิวาทระหว่างสถาบัน
โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้เชิญตัวแทนจาก 3 ห้างสรรพสินค้า เจ้าหน้าที่ รปภ. ของรถไฟฟ้าและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อขอความร่วมมือในการติดต่อประสานงานการแจ้งเหตุรวมตัวของกลุ่มนักศึกษาที่จะเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่เสี่ยง เบื้องต้น ผบก.น.6 ได้กำหนดจุดเสี่ยง 13 จุด ให้ฝ่ายป้องกันปราบปรามและฝ่ายสืบสวนตรวจเข้มขึ้นในการป้องกันเหตุ เนื่องจากเหตุที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อประชาชนที่เข้ามาใช้บริการภายในห้าง ฯ และนักท่องเที่ยว รวมถึงภาพลักษณ์ของประเทศ ตำรวจจึงเพิ่มมาตรการเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซาก
ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบกลุ่มนักศึกษากลุ่มแรก เข้ามาภายในห้างฯ เวลา 16.00 น. จำนวน 29 คน ต่อมาเวลา19.00 น. ฝั่งนักศึกษาอีกกลุ่มได้ยกพวกเข้ามา 44 คน เพื่อออกล่าคู่อริ ก่อนจะก่อเหตุขึ้น จึงได้ส่งภาพให้ฝ่ายปกครองของทั้ง 2 สถาบัน ตรวจสอบว่าปัจจุบันยังเป็นนักศึกษาอยู่หรือพ้นสภาพไปแล้ว เพื่อจะดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ตำรวจทราบแล้วว่าใครคือผู้ใช้อาวุธมีดในการก่อเหตุ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี ส่วนนักศึกษา 4 คน ที่จับกุมได้ มีการแจ้งข้อหา “ทะเลาะวิวาท” และปรับ ก่อนปล่อยตัวไป แต่หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุเพิ่ม ก็จะเรียกเข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีเพิ่มเติม
เบื้องต้นยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ว่าจะเกิดจากการยั่วยุหรือสมัครใจก็ตาม ส่วนการแก้ไข้ปัญหาระยะยาวจะประสานไปยังกระทรวง อว. เพื่อทำ MOU ระหว่าง 2 สถาบันเพื่อร่วมกันวางมาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานาน
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวต่ออีกว่า เท่าที่ทราบก่อนหน้านี้ห้างสรรพสินค้าที่เกิดเหตุทางนักศึกษาอุเทนฯ สามารถใช้ได้ตามปกติ ส่วนฝั่งโฮมโปร โลตัส จะเป็นนักศึกษาปทุมวันที่เข้าไปใช้บริการ ส่วนสกายวอล์คถือเป็นจุดเซฟโซนจะต้องไม่มีการก่อเหตุ ซึ่งถือเป็นข้อตกลงภายนอกที่รู้ร่วมกันดีของนักศึกษาทั้ง 2 สถาบัน แต่ปัจจุบันกลับมีเหตุต่าง ๆ เกิดขึ้น ทําให้ตํารวจต้องเพิ่มมาตรการเพิ่มขึ้นในการนํากําลังเจ้าหน้าที่มากดดันทุกวันประมาณ 30-40 นาย ประกอบกับช่วงนี้ทั้ง 2 สถาบันมีการสั่งหยุดเรียนจนถึงปลายเดือนเมษายน หากตํารวจพบว่ามีนักศึกษาเข้ามาในพื้นที่ลักษณะมั่วสุ่มจะเข้าตัวค้นอาวุธทันทีและหากมีการกระทําผิดก็จะดําเนินคดีตามกฎหมายพร้อมประสานไปยังสถาบันพิจารณาลงโทษทางวินัยและปกครอง
ขณะที่ตัวแทนห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ระบุว่า อยู่ระหว่างประเมินความเสียหาย เบื้องต้น พบมี 5 ร้านค้า ได้รับผลกระทบ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางห้างสรรพสินค้ามีการตรวจอาวุธอยู่ตลอดรวมถึงการปิดประตูป้องกันเหตุทะเลาะวิวาทไม่ให้เข้ามาภายในพื้นที่ แต่ยืนยันว่าจะมีมาตรการเข้มข้นมากขึ้นหลังประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตํารวจ ในส่วนของการแจ้งความดําเนินคดีได้มอบหมายให้ทนายความดําเนินการตรวจสอบว่าจะเข้าข่ายความผิดในข้อหาใดบ้าง คาดจะเดินทางเข้ามาแจ้งความภายในวันพรุ่งนี้ ที่ สน.ปทุมวัน