สนามข่าว 7 สี - ผู้เสียหายร้องทนายช่วยตรวจสอบ หลังถูกอดีตแฟนตำรวจ ฉกเงินกว่า 500,000 บาท แจ้งความแล้วผ่านไปปีกว่า แต่คดีเงียบกริบ
ต้นเรื่อง เริ่มจากผู้เสียหาย เป็นหญิงอายุ 38 ปี อยู่จังหวัดสมุทรปราการ เดินทางเข้าร้องทุกข์กับ นายณธัชพงศ์ บุญเกิด หรือ ทนายกบ ว่าถูกอดีตแฟนหนุ่ม ซึ่งมีตำแหน่งเป็น รองผู้กำกับ (สอบสวน) พื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ หลอกเงิน มีพฤติกรรมติดพนัน และใช้สารเสพติด
ผู้เสียหาย เล่าว่า เริ่มรู้จักตำรวจนายดังกล่าว เมื่อปี 2565 ขณะนั้นยังมีตำแหน่งเป็นเพียงสารวัตร ก่อนจะเริ่มพูดคุย พัฒนาความสัมพันธ์คบหากัน กระทั่งปลายปี 2565 พฤติกรรมฝ่ายชายเริ่มเปลี่ยนไป หยิบยืมเงินจากเธอ ไม่ยอมคืนตามสัญญา อ้างว่านำไปจ่ายค่าคดี หรือค่าเข้าเวร
แต่ความจริงคือ ฝ่ายชายติดพนันอย่างหนัก ถึงขั้นมีเจ้าหนี้โทร.มาทวงอยู่เรื่อย ๆ และที่หนักไปกว่านั้นคือ พบอุปกรณ์เสพไอซ์ ทำให้เธอรับไม่ได้ จึงขอเลิก เมื่อเดือนธันวาคม 2566
ก่อนจะพบความจริงที่ว่า เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2566 เธอมีเหตุต้องใช้เงิน จึงเปิดโทรศัพท์ที่เคยให้ฝ่ายชายยืมไปใช้งาน ปรากฏพบเว็บพนันค้างอยู่ในเครื่อง และเงินในบัญชีกว่า 100,000 บาท ของเธอ หายเกลี้ยงบัญชี หนำซ้ำฝ่ายชายยังเปลี่ยนอีเมลไปกู้เงินธนาคารอีก 20,000 บาท และเงินสดแม่ของเธอที่ซ่อนไว้ในลิ้นชักในบ้าน ประมาณ 7,000 บาท ก็หายไปด้วย
หลังเกิดเหตุ เธอแจ้งความไว้ตั้งแต่ปี 2567 แต่คดีกลับเงียบ ไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ทั้งสิ้น จึงกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะฝ่ายชายรู้พิกัดบ้าน และมีการส่งแช็ตมาข่มขู่อยู่ตลอด
ทีมข่าวลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าทางคดีกับ พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เผยว่า ตำรวจนายดังกล่าว เพิ่งถูกย้ายมาประจำที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา แต่ขณะนี้ไปอบรมที่วิทยาลัยการตำรวจ กองบัญชาการศึกษา จะกลับมาปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้
ส่วนการดำเนินคดี ต้องแยกเป็น 2 กรณี กรณีแรกเกิดเมื่อปี 2566 ผู้เสียหายเข้าแจ้งความคดีลักทรัพย์ ทราบว่าพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และส่งสำนวนให้อัยการสั่งฟ้องแล้ว
ส่วนกรณีที่ 2 ถูกร้องเรียนพฤติกรรมไม่เหมาะสม ติดการพนัน และปรากฏภาพใช้สารเสพติด พล.ต.ต.วิชิต บอกว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยแล้ว ซึ่งทราบว่าตำรวจนายนี้อ้างว่าทำตามหน้าที่ เพื่อประโยชน์ในการสืบราชการ
ก็ตามที่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายอย่างเต็มที่ หากพบตำรวจนายดังกล่าวมีความผิดจริง ต้องถูกไล่ออกจากราชการทันที โดยไม่ละเว้น