ข่าวเย็นประเด็นร้อน - งงจัด! หนุ่มหัวร้อน ถอยรถชน รปภ. ไม่ขอโทษ และไม่สำนึกผิด แถมลงมาสาวหมัดใส่หน้า รปภ.
หนุ่มรถเก๋งหัวร้อน! ถอยชน-ทำร้าย รปภ.
โลกออนไลน์ เผยแพร่ภาพกล้องหน้ารถยนต์คันหนึ่ง ความยาว 3 นาที 31 วินาที ขณะกำลังขับออกจาก โครงการเสนาเฟสท์ (SENA fest) ถนนเจริญนคร กรุงเทพฯ จากภาพจะเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ถือธงโบกรถให้ออกจากโครงการ ระหว่างนั้นมีรถยนต์คันหนึ่งที่จอดอยู่ ถอยหลังมาชน รปภ. ซึ่ง รปภ. ได้เดินเข้าไปพูดคุยบางอย่างกับคนขับรถยนต์คันดังกล่าว จนคล้ายเกิดการโต้เถียงกัน ต่อมาชายคนขับรถ ลงจากรถด้วยท่าทีหัวร้อน ชี้หน้า ทำท่าง้างมือจะต่อย รปภ.แต่ไม่ได้ต่อย รปภ.ก็พยายามเดินหนี และวิทยุแจ้งหัวหน้า ขณะนั้นลูกค้าหัวร้อน ก็เดินตามไปใช้มือกดหัว ทั้งคู่ยืนเถียงกันสักพัก ก่อนจะขับรถออกไป
จากนั้นชายหัวร้อนกลับขึ้นรถ จะขับออกจากโครงการ แต่ยังไม่ทันเลี้ยว เจ้าตัวลงจากรถและวิ่งมาต่อย รปภ. เต็ม ๆ สองครั้ง เข้าที่ศีรษะและหน้าจนหมวก รปภ.ปลิว ก่อนที่หัวหน้า รปภ. จะเข้ามาห้ามปรามเหตุการณ์ แต่ชายหัวร้อนยังอยู่ในอาการเดือดดาล ปล่อยหมัดที่ 3 และ 4 ใส่ รปภ. จนทาง รปภ. ทนไม่ไหว สวนกลับไป 1 หมัด แล้ววิ่งหนี ส่วนลูกค้าหัวร้อนก็วิ่งตาม พร้อมตะโกนด่า และเขวี้ยงโทรศัพท์ รปภ. ลงพื้น ก่อนคลิปจะจบ ลูกค้าหัวร้อนก็ขับรถออกไป ซึ่ง รปภ. ก็เดินไปตามรถของคู่กรณีไปเช่นกัน
รปภ.เข้าแจ้งความเอาผิดแล้ว
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบว่าจุดทางออกที่เกิดเหตุ เป็นทางเดินรถทางเดียว ซึ่งรถที่ลงมาจากลานจอดรถ ต้องใช้ช่องทางนี้ออกจากศูนย์การค้า ส่วนจุดที่รถคันในคลิปไปจอดนั้น เป็นจุดจอดรับอาหารของร้านพิซซ่า แต่โดยปกติ จะต้องให้ รปภ. เปิดแผงกั้นแล้วขับขึ้นไปจอดด้านหน้าเพื่อไม่ให้ขวางทางเข้าออก
นางสาวธิดารัตน์ พัฒน์ทอง ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การค้าเสนาเฟสท์ เจริญนคร เปิดเผยว่า เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นช่วงเที่ยงวันเสาร์ที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุทางศูนย์การค้าได้พา รปภ. ไปรักษาตัวและตรวจร่างกาย และไปแจ้งความที่ สน.สำเหร่ เบื้องต้นทาง รปภ. ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่สภาพจิตใจยังอยู่ในอาการตกใจและหวาดกลัว ไม่พร้อมที่จะมาเจอสื่อมวลชนเพื่อพูดคุย รวมถึงโทรศัพท์มือถือก็เสียหาย เนื่องจากถูกคู่กรณีเขวี้ยงลงพื้น
ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้น มาจากรถคันสีดำไปจอดในตำแหน่งห้ามจอดเพื่อมารอรับคน ซึ่งปกติทางศูนย์การค้าได้ จัดสรรจุดจอดรถสำหรับรับ-ส่งคน บริเวณด้านหน้า ซึ่งรถคันดังกล่าวมาจอดรอประมาณ 3 นาที ทาง รปภ. จึงเข้าไปแจ้งตามหน้าที่ว่าจุดนี้จอดไม่ได้ เพราะขวางรถคันอื่นที่จะเลี้ยวออกจากห้าง หลังจากนั้น รปภ. ได้เดินมาด้านหลังรถ เพื่อโบกรถที่จะออกจากศูนย์การค้า
คนขับรถคันดังกล่าว จึงถอยรถมาชนตามภาพที่ปรากฏในคลิป ซึ่งตอนนี้ทางศูนย์การค้า ยังไม่ได้คุยรายละเอียดกับ รปภ. มาก แต่หากดูจากภาพ ก็เชื่อว่าเป็นการตั้งใจถอยจะชน เพราะอาจไม่พอใจที่ รปภ. ไปเตือนไม่ให้จอดรถบริเวณนี้
อีกทั้งทางห้างฯ ก็มีมาตรการในการดูแลบุคลากร มีการอบรม รปภ. ในการให้บริการลูกค้า เน้นย้ำว่าจะต้องขอโทษลูกค้าก่อนเสมอ เชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ รปภ. เพียงแค่ทำตามหน้าที่ แต่คู่กรณีอารมณ์ร้อน ทางห้างยืนยัน จะไม่ไล่ รปภ.ออกจากงาน แต่จะให้ย้ายไปทำงานในจุดอื่นก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความกังวล และจะต้องคุยรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้งว่าในวันนั้น เกิดอะไรขึ้น
รปภ.เล่านาที ถูกชายหัวร้อนถอยรถชน
นายแมน (นามสมมติ) รปภ. ที่ถูกทำร้าย ให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุ รถคันสีดำจอดในที่ห้ามจอด จึงได้เคาะกระจกและบอกไปว่า บริเวณนี้ห้ามจอด แต่ไม่เจอคนในรถ แต่มีเสียงของผู้ชายบอกว่า "รถของผมเอง ผมรอลูกค้าอยู่ ลูกค้ายังไม่มา" ซึ่งในตอนนั้นตนก็ไม่ได้ว่าอะไร เนื่องจากลูกค้ามาพอดี
จากนั้นก็ไปยืนหลังรถ โบกให้รถคันอื่นออกจากห้างฯ แต่อีกฝ่ายก็ถอยรถมาชน ทำให้มีปากเสียงกัน โดย รปภ. อ้างว่า คู่กรณีพูดหยาบคาย บอกว่า "ถ้าพ่อมึงเป็นตำรวจกูก็ไม่กลัวนะ"
จากนั้นก็ทำร้ายตามคลิป และปาโทรศัพท์จนหน้าจอแตก ก่อนที่จะขับรถออกจากศูนย์การค้า จึงได้วิ่งตามไปและตบกระจกรถ เพื่อต้องการให้อีกฝ่ายดูว่าโทรศัพท์พัง จะรับผิดชอบอย่างไร แต่อีกฝ่ายก็ขับรถหนีไป ทั้งนี้ ตนทราบว่าอีกฝ่ายมีกล้องหลังรถ แต่มาถอยชนตนได้
คู่กรณียอมชดใช้ค่าเสียหาย
ล่าสุด คนขับรถเก๋งหัวร้อน ยอมจ่ายค่าเสียเวลาและค่าซ่อมโทรศัพท์ให้ รปภ. เป็นจำนวนเงิน 9,000 บาท ขณะที่ รปภ. ก็ยังคงทำงานอยู่ที่ศูนย์การค้าแห่งเดิม แต่จะไปประจำจุดอื่น ส่วนเรื่องของคดี ตำรวจบอกว่า ความผิดที่ผู้ก่อเหตุทำนั้น ไม่ได้ทำให้ผู้เสียหายบาดเจ็บ หรือ บาดเจ็บสาหัส เป็นการทำร้ายร่างกายธรรมดาไม่อันตราย เป็นความผิดลหุโทษ สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ ซึ่งทั้งสองฝ่ายคุยกันเรียบร้อย เพราะอารมณ์เย็นขึ้นแล้ว มีการขอโทษซึ่งกันและกันเมื่อได้เงินเยียวยา ทางฝ่ายผู้เสียหายก็ไม่ติดใจเอาความ เรื่องนี้ก็จบไป