ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หนุ่ม 18 ปีสึกจากพระแล้ว หลังหนีดรามาไปบวช กรณีจัดงานศพแม่ "ตายทิพย์"
จากกรณีชาวบ้านในพื้นที่ ตำบลบ้านม่วง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ไม่พอใจนายเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 จัดงานศพแม่ที่บ้าน อ้างว่าเสียชีวิตที่กรุงเทพฯ มีการตั้งโลงศพ และจัดงานในคืนวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมีครูและนักเรียนมาร่วมงาน และช่วยใส่ซอง แต่มีพิรุธ ไม่มีการแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านรับทราบ มารู้เรื่องอีกที เพราะครูโทรมาถาม จึงพาลูกบ้านไปตรวจสอบ ปรากฏว่า เมื่อเปิดโลงศพดู สิ่งที่อยู่ในโลงกลับไม่ใช่ศพแม่ แต่กลายเป็นต้นกล้วยตัดหั่นเป็นท่อน ร้อนจนชาวบ้านต้องรวมเรียกประชุมด่วน
ขณะที่ นายเอ อ้างว่า เป็นการทำงานส่งครู เกี่ยวกับเรื่องงานศพ ก่อนที่ในคืนวันที่ 23 มีนาคม ครอบครัวของนายเอ จะนำโลงศพไปเผากลางทุ่งนา แล้วนำภาพไปโพสต์ และต่อว่าชาวบ้านที่ไม่สนใจในสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัว
ขณะที่เพื่อนสนิทของนายเอ กล่าวว่า อยากให้นายเอ ออกมาขอโทษคุณครู เพราะทุกคนนึกว่าแม่ตายจริง ๆ จึงไปร่วมงานศพ และพร้อมให้อภัยเพื่อนเสมอ
ทั้งนี้เมื่อคืน ทีมข่าวไปที่วัดแห่งหนึ่ง ในอำเภอกู่แก้ว เจอนายเอ ที่บวชเป็นเณร เปิดใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ที่จัดงานศพให้แม่ เพราะเป็นการแก้เคล็ด แม่บอกว่าไปดูดวงมา แล้วให้จัดงานศพ ขณะที่ยายก็บอกให้จัดงานศพ ถ้าไม่จัดแม่อาจจะต้องตายจริง ๆ แต่กลายเป็นเรื่องใหญ่โต เพราะเพื่อนเอาไปลงโซเชียลทำให้ครูนึกว่าแม่ตายจริง โดยครอบครัวและตน มีความเชื่อเรื่องดวง หมอดูบอกว่า จัดงานให้เหมือนจริง ตนก็เอะใจว่า ทำไมต้องให้จัดงานแบบนั้น จึงคุยกับตายายและแม่ จึงตกลงจัดงานศพให้แม่ โดยเอาต้นกล้วยใส่ในโลงแทนศพแม่ มีการมัดตราสังคล้ายงานศพจริง ๆ โดยไม่ได้แจ้งเรื่องนี้ให้ใครรู้ยอมรับว่าผิดพลาด เอารูปโพสต์ลงอินสตาแกรม กระทั่งมีคนรู้ สำหรับเงินที่ได้จากการบริจาค จากครู 1,400 บาท และเงินจากเพื่อน และญาติ 600 บาท จะนำไปคืน ส่วนโลงก็จะซื้อคืนกู้ภัย
สามเณเอ บอกด้วยว่า ที่ตัดสินใจบวช เพราะจริง ๆ แล้วมีแผนที่จะบวชมาก่อนหน้านี้ โดยจะขอบวชและยังไม่มีกำหนดลาสิกขา ส่วนเรื่องเรียนมหาวิทยาลัยคงไม่เรียนแล้ว
ล่าสุดวันนี้ (26 มี.ค.) นายเอ ได้ทำการสึกจากสามเณรแล้ว ส่วนคุณตากับคุณยายของนายเอ ได้นำเงินที่ได้รับบริจาคมา คืนให้กับทางโรงเรียน พร้อมซื้อโลงศพมาคืนกู้ภัยด้วย ขณะบรรยากาศที่บ้าน ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพทิพย์ มีตำรวจชุดสืบสวนจาก สภ.บ้านดุง มาเก็บข้อมูลจากทางผู้ใหญ่บ้าน
ขณะที่ยายของนายเอ บอกว่า ตอนเช้าได้คุยกับหลาน หลานบอกว่า เจ้าอาวาสขอให้สึกเพราะกลัวจะเป็นเรื่องใหญ่ โดยส่วนตัวก็ไม่ได้โกรธหลาน แต่สงสารหลานมากกว่า เพราะว่าหลานยังเด็กที่ทำไปเพราะเชื่อที่หมอดูทักมาว่าแม่ชะตาจะขาด จึงแก้เคล็ดตามหมอดูบอก ยายยังยืนยัน ฐานะทางการเงินของหลานไม่มีปัญหาอะไร หลานไม่ได้อยากได้เงินจากใคร ๆ ทั้งนั้น
นางสถิตย์ แพงคูณ กรรมการหมู่บ้าน บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ในฐานะกรรมการหมู่บ้าน ไม่รู้เหมือนกันว่าชาวบ้านในหมู่บ้านจะให้อภัยหรือไม่ แต่ส่วนตัวรู้สึกสงสาร และอยากให้มาชี้แจง มาทำความเข้าใจกับชาวบ้าน
ด้านตัวแทนครู บอกว่า ที่ได้รับบริจาค 1,000 กว่าบาทคืนแล้ว ซึ่งทางคุณครูไม่ติดใจ และขอให้สังคมเห็นใจครอบครัวนี้ด้วย