กิเลสบังตา! ตามจับพนักงานคาร์แคร์ ฉกสร้อยทอง 1 บาท ในรถลูกค้า อ้างหวังเอาไปขายใช้หนี้ค่าซ่อมรถจักรยานยนต์
26 มี.ค. 68 เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.อ.อัมรินทร์ อยู่เย็น ผกก.สภ.กุดจับ พ.ต.ท.รัชพงศ์ อาจแก้ว รอง ผกก.สส.สภ.กุดจับ พ.ต.ท.เจริญ อนันต์เอื้อ สว.สส.สภ.กุดจับ พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน จับกุมตัวนายศุภวัฒน์ หรือมอส อายุ 32 ปี ชาว จ.อุดรธานี ในข้อกล่าวหาว่า “ ลักทรัพย์ทรัพย์ และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” พร้อมขงกลางสร้อยคอทองคำ หนัก 1 บาท ราคา 49,450 บาท และผลตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดมีผลเป็นบวก
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 17.55 น. วานนี้ (25 มี.ค. 68) ขณะที่ พ.ต.ท.องอาจ ปลัดขวา สว.สอบสวน สภ.กุดจับ ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก รับแจ้งจากนายศุภฤกษ์ อายุ 25 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยเชียง (ตอนบน) ชาว จ.แม่ฮ่องสอน ว่าเมื่อช่วงเที่ยงวัน ตนได้ขับรถกระบะ เข้าไปล้างในคาร์แคร์แห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.กุดจับ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี พอล้างรถเสร็จ ปรากฎว่าสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ที่เก็บไว้ในเก๊ะเก็บของด้านหน้าฝั่งซ้ายหายไป สอบถามเจ้าของคาร์แคร์ และพนักงานล้างรถชายหญิง 3 คน ต่างไม่มีคนรู้เห็น จึงมาแจ้งความให้ตำรวจช่วยติดตามพนักงานรับรถชื่อนายมอส มาสอบสวน เพราะเชื่อว่าเป็นผู้ก่อเหตุ
ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (26 มี.ค.) ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กุดจับ ได้เชิญตัวนายมอส มาสอบสวนปากคำ ทีแรกให้การปฏิเสธ จึงได้เค้นสอบจนยอมรับสารภาพ ก่อนนำตำรวจไปตรวจยึดของกลางที่เก็บซ่อนไว้ข้างหิ้งพระ หลังตู้เก็บที่นอนหมอนมุ้งภายในบ้านพัก ควบคุมตัวมาสอบสวน ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นพนักงานล้างรถมาตั้งแต่นายจ้าง เปิดคาร์แคร์ ประมาณ 1 ปีกว่า ไม่เคยขโมยทรัพย์สินของลูกค้าเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรก เนื่องจากตนเป็นหนี้สินจากการซ่อมรถจักรยานยนต์ประมาณ 4-5 พันบาท
ขณะทำความสะอาดอยู่ภายในรถ เห็นตลับสร้อยคอทองคำอยู่ในเก๊ะเก็บของ จึงเกิดกิเลสบังตา อยากได้เพื่อนำไปขายใช้หนี้ จึงก่อเหตุแต่ยังไม่ได้ไปขาย และขอสัญญาว่าเมื่อพ้นโทษออกมาจะกลับตัวตัวกลับใจไม่ลักของคนอื่นอีก และจะเลิกเสพยาบ้าด้วย ปัจจุบันเสพวันละ 2-3 เม็ด หลังติดเสพยาบ้ามาตั้งแต่จบชั้น ม.3 โดยซื้อมาเสพในราคาเม็ดละ 40-50 บาท หลังจากนั้นนายมอส ได้ยกมือไหว้ขอโทษนายศุภฤกษ์ หลังจากสำนึกผิดในสิ่งที่ทำลงไป ซึ่งผู้เสียหายก็ให้อภัย แต่ด้านเรื่องคดีความก็ให้ตำรวจดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ด้านนายนายศุภฤกษ์ เจ้าของสร้อยคอทองคำ เล่าว่า ตนและครอบครัวญาติพี่น้องเดินทางมาจากบ้าน เพื่อมารับเหมาก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยเชียงตนบนได้ประมาณ 1 ปีกว่า และเอารถมาล้างที่คาร์แคร์ที่เกิดเหตุประจำ ทรัพย์สินก็ไม่เคยหาย และทุกครั้งเวลาเอารถมาล้าง ภรรยาและตนจะเก็บออกมาจากรถ แต่ครั้งนี้ลืมสนิททั้งตนและภรรยา พอล้างเสร็จ ภรรยาตนบอกว่าตลับสร้อยทองหาย จึงไปสอบถามเจ้าของคาร์แคร์ และพนักงานก็ไม่มีใครรู้เห็น จึงมาแจ้งความให้ตำรวจเชิญพนักงานรับรถมาสอบสวนในวันนี้ และก็ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนขโมยไปจริง
”สร้อยคอทองคำเส้นนี้ ตนเก็บเงินซื้อให้ภรรยาสวมใส่ในงานวันเกิด และเป็นเงินที่ได้จากน้ำพักน้ำแรงของตนทั้งสิ้น และขอฝากเตือนภัยคนที่เอารถไปล้างในคาร์แคร์ ควรเก็บทรัพย์สินมีค่าออกจากรถ ไม่เช่นนั้นก็จะถูกขโมยไปเหมือนกับตนเอง แต่โชคยังดีที่ตำรวจ สภ.กุดจับ ติดตามจับคนร้ายและสร้อยทองกลับคืนมาได้ ตนเชื่อว่าเมื่อมีความโชคร้าย แต่ก็มีความโชคดีตามมา ตนจะนำทะเบียนรถปิคอัพของตนคือ 5058 ไปเสี่ยงโชคซื้อลอตเตอรี่ ในงวดที่จะถึงนี้ และเมื่อเช้าวันนี้ก็ได้ซื้อเก็บไว้แล้ว”