ฌาปนกิจศพแล้ว น้องมันนี่ 13 ปีและน้องนะโม 9 ปี หลังภรรยาชาวต่างชาติขับรถฟอร์จูนเนอร์ข้ามเลนพุ่งชนจนเสียชีวิต บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า เพื่อนนักเรียนมาร้องเพลงส่ง และญาติพี่น้องโดยเฉพาะยายผู้เลี้ยง คาที่
วันที่ 26 มี.ค.68 ที่วัดบ้านยางงาม ต.กระสัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้มีการฌาปนกิจศพ ด.ญ.มันนี่ อายุ 13 ปี และ ด.ช.นะโม วางาม อายุ 9 ปี หลังจากเมื่อวันที่ 22 มี.ค.เวลาประมาณ 18.00 น.ได้ถูกรถยนต์นั่งเอนกประสงค์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีแดง โดยมี น.ส.พิรุณ อายุ 43 ปี เป็นคนขับพุ่งข้ามเลนมาชนน้องทั้งสอง ขณะจะขับรถไปซื้อก๋วยเตี๋ยวในหมู่บ้าน บนถนนสายสตึก-โนนจำปา บริเวณบ้านยางงาม หมู่ที่ 10 ต.ทุ่งวัง
เหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นเหตุการณ์ที่สังคมให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก เพราะคนขับรถซึ่งมีแฟนเป็นชาวต่างชาติ ได้บอกกับนางทองจันทร์ อายุ 62ปี ยายเด็กที่เสียชีวิตทั้งสอง ตามที่ยายเด็กเล่าว่าช่วงเกิดเหตุได้ไปถามคนขับรถและได้คำตอบกลับมาว่า สาเหตุเพราะลูกชาย 2 ขวบ”เล่นพ่วงมาลัย” ถึงแม้ในเวลาต่อมา น.ส.พิรุณ คนขับรถยนต์จะออกมาแก้ข่าวว่าไม่จริงสาเหตุมาจากลูกชาย 2 ขวบอาเจียน จึงหันไปบอกให้ลูกชายอีกคนอายุ 12 ปีที่นั่งอยู่ด้านหลังมาเช็ดให้แล้วเสียหลักพุ่งชน สังคมก็ยังไม่เชื่อหลังทราบในเวลาต่อมาว่าซิมการ์ดจากกล้องหน้ารถถูกถอดออกและไม่มีภาพในช่วงเกิดเหตุ
การจัดพิธีผู้จัดได้ทำการเผาแบบกองฟอนต่อหน้าเมรุทั้งสองศพโดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าทั้งพ่อ แม่ของเด็กทั้งสองคนโดยเฉพาะยายที่เลี้ยงเด็กมาตั้งแต่ยังเล็ก ยังรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ ต่างร้องไห้ระงมตั้งแต่การทำพิธีจนถึงการฌาปนกิจศพ มีเพื่อนนักเรียนของน้องมันนี่ มาร่วมร้องเพลง”ไม่เคย”ของ ทเวนตีไฟฟ์อาเวอส์ มาร้องเพลงส่งหน้ากองฟอนอีกด้วย
นายยิ่งพันธ์ อายุ 50 ปี ผู้รับจัดงานศพ บอกว่าจากการพูดคุยจนตกลงกันก่อนหน้านี้ว่าจะไม่แยกกันเผา เพราะเกรงว่าเด็กจะมองไม่เห็นกันอยากให้เด็กไปด้วยกัน จึงตัดการเผาบนเมรุออกไป ให้เผาพร้อมกัน
อย่างไรก็ตามส่วนทางด้านคดีพนักงานสอบสวน สภ.สตึก อ.สตึก อยู่ระหว่างการทำสำนวนทราบว่ามีพยานหลักฐานชัดเจนแล้ว ส่วนการเยียวยายังไม่ได้เจรจากัน เพราะส่วนหนึ่งรถที่พุ่งชนมีทั้ง พรบ.ภาคบังคับและประกันภาคสมัครใจ