สุดเศร้า สามีหายไป 30 ปี เจออีกที กลายเป็นศพ ชีวิตรันทด ไม่มีแม้แต่เงินจัดงานศพ หลวงพ่อแดง วัดอินทาราม อัมพวา มีเมตตา รับจัดงานศพให้ฟรี
จากกรณีมีการนำเสนอข่าวพบศพ นายสายพันธุ์ อายุ 62 ปี เสียชีวิตริมตลิ่งภายในป่า ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ สภาพผู้เสียชีวิตเน่าเปื่อย และมีรอยถูกสัตว์กัดแทะ นั้น ต่อมานางสุดา อายุ 65 ปี ชาว ต.เหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ได้ทราบข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบก็พบว่า เป็นสามีของตนที่หายตัวไปเมื่อ 30 ปี ก่อน จึงนำร่างของสามีมาขอความเมตตาหลวงพ่อแดง เจ้าอาวาสวัดอินทาราม ต.เหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม เพื่อให้ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลทางศาสนา เนื่องจาก นางสุดา มีอาชีพรับจ้างทั่วไป มีฐานะยากจน ซึ่งหลวงพ่อแดงก็รับเป็นเจ้าภาพจัดงานศพให้ฟรี 3 วัน 3 คืน
นางสุดา กล่าวว่า เมื่อ 30 ปีก่อน ตนไปทำงานโรงงานที่ จ.สมุทรปราการ พบรักกับ นายสายพันธ์ อยู่กินกัน 6 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน พอคลอดลูกคนที่ 2 จึงชักชวนกันกับมาทำกินที่ จ.สมุทรสงคราม มาอยู่ด้วยกันจนลูกคนที่ 2 อายุ 3 ขวบ นายสายพันธ์ ก็หนีหายออกไปจากบ้านที่ จ.สมุทรสงคราม ตนตามหาไปจนถึง จ.สมุทรปราการ อยู่นานก็ไม่เจอ จึงหมดกำลังใจและกลับมาตั้งหน้าตั้งตาเลี้ยงลูกตนเติบใหญ่ กระทั่งเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ที่ผ่านมา ทราบข่าวว่าพบศพ ตนจึงไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นนายสายพันธุ์ สามีของตน แม้จะไม่ได้เจอกันกว่า 30 ปี แต่นายสายพันธ์ ก็เป็นพ่อของลูกตน จึงตั้งใจทำสิ่งดีๆให้เป็นครั้งสุดท้าย ด้วยการจัดงานศพให้ดีที่สุด แต่ด้วยความยากจน จึงหมดหนทาง มืดมนไปหมด กระทั่งเข้ามาปรึกษา ผศ.ดร.หลวงพ่อแดง นันทิโย ซึ่งท่านก็เมตตารับเป็นเจ้าภาพจัดงานศพให้ทั้งหมดรวม 3 วัน 3 คืน ตนต้องขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อที่จัดงานศพนี้ให้อย่างดี
พระเมธีวัชรประชาทร เจ้าอาวาสวัดอินทาราม กล่าวว่า วัดอินทารามมีนโยบายจัดงานศพให้กับผู้ยากไร้ฟรี ตามกฎมหาเถรสมาคม ในข้อสาธารณสงเคราะห์ ถือว่าบ้านวัดประชาชน ต้องสามัคคีกัน เมื่อญาติโยมมีทรัพย์ไม่มาก แต่ต้องการจัดงานศพให้ญาติ หรือ บิดามารดา ถ้าไม่มีทุน ทางวัดอินทาราม ก็ยินดีที่จะช่วยเหลือ เพราะงานศพเจ้าภาพก็มีทุกข์อยู่แล้ว แต่ถ้าไปกู้หนี้ยืมสิน มาจัดงานศพก็จะเป็นทุกข์หนักขึ้น ทางวัดอินทารามจึงมีกองทุนสนับสนุนจัดงานศพให้ผู้ยากไร้ จัดให้อย่างดี เช่นงานนี้ สวด 3 คืน ฌาปนกิจศพ วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม 2568 โดยการจัดงานก็เหมือนศพทั่วไป มีการเทศน์, มีการสวดพระอภิธรรมศพ และในวันสุดท้ายก็มีการทำบุญถวายภัตตาหารเช้า และ เพล รวมทั้งมาติกาบังสุกล และสุดท้ายนำร่างผู้วายชนสู่ฌานสถาน โดยทั้งหมดนี้วัดอินทารามอุปถัมภ์ให้หมด เพราะวัดต้องช่วยญาติโยม ดังนั้นของฟรียังมีอยู่ที่วัดอินทราราม