ห้องข่าวภาคเที่ยง - ผ่านไปเพียง 3 วัน ตำรวจ แกะรอยตามจับคนร้าย บุกจี้ชิงทองน้ำหนักกว่า 160 บาทได้แล้ว พร้อมของกลาง ส่วนมูลเหตุจูงใจมาจากปัญหาเรื่องเดิม ๆ
นี่เป็นภาพนิ่ง ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา บุกจับกุม พันจ่าอากาศ วรพจน์ หรือ โอ๋ อายุ 43 ปี ที่ห้องพัก ในค่ายทหารแห่งหนึ่ง จังหวัดปทุมธานี พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหลายเส้น อาวุธปืน เสื้อผ้าที่สวมใส่วันก่อเหตุ วางเรียงรายอยู่หน้าผู้ต้องหา และรถกระบะอีก 1 คัน หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงทองน้ำหนักกว่า 160 บาท ภายในห้างฯ ค้าปลีกแห่งหนึ่ง สาขาบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ก่อนจะควบคุมตัวมาสอบสวน ที่ สภ.พระอินทร์ราชา
การจับกุมครั้งนี้ ตำรวจได้ตามแกะรอยขยายผลจากภาพวงจรปิดและพยานในที่เกิดเหตุ พบว่าก่อนก่อเหตุ 1 วัน (22 มี.ค.) คนร้ายได้ขับรถกระบะไปจอดไว้ที่ลานจอดรถแห่งหนึ่งใกล้กับห้างฯ เพื่อมาดูลาดเลา วันถัดมา (23 มี.ค.) จึงลงมือก่อเหตุ โดยจอดรถกระบะไว้ที่เดิม แล้วใช้วิธีเดินเท้าไปที่ห้างฯ ก่อนตรงเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง จากนั้นได้ว่าจ้างวินจักรยานยนต์ ให้ไปส่งใกล้กับจุดพักรถ ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร แต่กลับให้จอดส่งระหว่างทาง ซึ่งเป็นจุดอับที่ไม่มีกล้องวงจรปิด แถมยังใจเย็น ให้แบงค์ 50 บาท และรอรับเงินทอน 20 บาท ก่อนขับรถหลบหนีไป กระทั่งพบว่ารถกระบะคันดังกล่าวขับเข้าไปยังค่ายทหาร จึงประสานขอเข้าควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ
เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่า มีปัญหาในเรื่องของหนี้สิน พยายามที่จะหากู้เงิน เพื่อมาชำระหนี้สิน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 500,000 บาท แต่ไม่สามารถหาเงินได้ โดยก่อนเกิดเหตุได้ขับรถกระบะมาจอดแวะเข้าห้องน้ำ บริเวณห้างฯ ที่เกิดเหตุ เห็นร้านทอง เข้า-ออก ได้สะดวก ใกล้กับประตูทางออกด้วย จึงกลับไปคิดและวางแผนเข้ามาก่อเหตุ ส่วนทองรูปพรรณของกลางยังไม่ได้เอาไปขายหรือจำหน่ายแต่อย่างใด กระทั่งถูกตามจับกุมได้ ซึ่งในช่วง 11.00 น. ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้เดินทางไปแถลงรายละเอียดทางคดีอีกครั้ง ถือว่าตำรวจตามจับได้เร็วเพียงแค่ 3 วันเอง