ห้องข่าวภาคเที่ยง - แม้จะยังต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพ เพื่อยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตของหญิงไทย อายุ 30 ปี ที่ถูกห่อศพถึง 2 ชั้น อยู่ในห้องพักคอนโดฯ หรู ย่านทองหล่อ ว่าจะใช่การฆาตกรรมหรือไม่ แต่ตำรวจก็มุ่งเป้าไปที่การหาตัวชายชาวสิงคโปร์ ที่อยู่กับหญิงคนนี้เป็นคนสุดท้าย และเบาะแสล่าสุดชี้ว่า เขามุ่งหน้าไปทางเหนือของไทย
นี่เป็นภาพวงจรปิดของคอนโดฯ เมื่อช่วงประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา จับภาพชายชาวสิงคโปร์ ขนกระเป๋าสัมภาระออกจากห้อง ไปขึ้นรถเก๋งสีดำที่จอดรออยู่หน้าคอนโดฯ ขับออกไป แล้วทำไมต้องสงสัยชายคนนี้ ก็เพราะว่า ถ้าย้อนไปดูภาพวงจรปิดก่อนหน้านั้นวันที่ 23 มีนาคม ยังพบภาพที่หนุ่มชาวสิงคโปร์ไปส่งนางสาวพราวพิลาศ แฟนสาวคนไทย ที่คอนโดฯ แห่งนี้ ซึ่งครั้งสุดท้ายที่เห็นภาพคือช่วงเที่ยงคืน เข้าสู่วันที่ 24 มีนาคม แล้ววันที่ 25 มีนาคม เขาออกมาจากห้องคนเดียว จึงเป็นผู้ต้องสงสัยที่สุดในคดีนี้
ชุดสืบสวนจึงแกะรอยเบาะแส พบว่าหลังออกเดินทางจากที่คอนโดฯ รถคันนี้มุ่งหน้าไปทางจังหวัดนครสวรรค์ ตรงไปจนถึงจังหวัดเชียงราย มีเบาะแสว่ามุ่งหน้าไปทางอำเภอท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ก่อนจะได้รับข้อมูลยืนยันว่า ตอนนี้ชายคนนี้หลบหนีออกนอกประเทศ ผ่านแม่น้ำสาย ซึ่งเป็นช่องทางธรรมชาติไปแล้ว ตอนนี้ตำรวจทราบตัวคนพาหลบหนี ได้พาตัวมาสอบสวนแล้ว คาดว่าวันนี้จะพาตัวไปชี้จุดที่ผู้ต้องสงสัยหลบหนีได้
นอกจากเรื่องที่เขาเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับผู้เสียชีวิตแล้ว ยังมีเรื่องสภาพที่เกิดเหตุ ที่พบว่าศพนางสาวพราวพิลาศ อยู่ในสภาพไม่สวมเสื้อผ้า ห่อด้วยผ้าทับ 2 ชั้น ที่ศีรษะมีผ้าสีขาวพันอยู่ มีรอยเลือดจำนวนมาก อีกทั้งกระเป๋าแบรนด์เนม, นาฬิกาหรู ของผู้เสียชีวิต ยังหายไปจากห้องพักด้วย
ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ บอกกับทีมข่าวว่า ผู้เสียชีวิตมาเช่าคอนโดฯ อยู่กับแฟนหนุ่มชาวสิงคโปร์ ได้ประมาณ 2 เดือน และยังพบข้อมูลว่าทั้งคู่มักมีปัญหาทะเลาะถึงขั้นลงมือทำร้ายร่างกายกันเป็นประจำ เพียงแต่การจะระบุว่าใช่คดีฆาตกรรม หรือไม่ ต้องรอผลการชันสูตรจากแพทย์มายืนยัน ถึงจะฟันธงได้
ขณะที่ทีมข่าวยังได้ไปคุยกับแม่ของ นางสาวพราวพิลาศ ยอมรับว่า ไม่รู้ว่าลูกที่ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ทำงานอะไร เท่าที่รู้ ลูกสาวคบหากับชายชาวสิงคโปร์คนนี้มาได้ 3 ปี แล้ว ที่ผ่านมาก็เคยได้ยินว่า ลูกมีปัญหาทะเลาะกับชายคนนี้อยู่บ่อย ๆ แต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงขั้นทำให้ลูกต้องมาเสียชีวิต
ล่าสุด รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ไปเรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีนี้ที่ สน.ทองหล่อ แล้ว โดยมีรายงานข่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า "นายเดเนียล เบนจามีน โกเวีย เอน" เข้ามาไทยครั้งสุดท้ายปี 2024 จึงเข้าข่ายเป็นบุคคลที่อยู่ในราชอาณาจักรเกินกฎหมายกำหนด เหตุที่ต้องหลบหนีออกช่องทางธรรมชาติ เพราะไม่สามารถเดินทางออกไปโดยใช้ช่องทางปกติได้
ส่วนแม่ของนางสาวพราวพิลาศเอง ก็อยู่ระหว่างเดินทางจากจังหวัดขอนแก่น เพื่อจะมารับศพลูกสาวไปประกอบพิธีทางศาสนา คาดว่าจะเดินทางมาถึงที่อาคารนิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ บ่ายวันนี้