ข่าวเย็นประเด็นร้อน - รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 160 บาท ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังอยุธยา สารภาพมีปัญหาเรื่องหนี้สิน ซ้ำพบมีการวางแผนเตรียมตัวอย่างดี แถมศึกษาข้อมูลวิธีหลอมทองแล้วนำไปขายด้วย
รวบ พันจ่าเอก ชิงทอง 160 บาท หวังปลดหนี้
วงจรปิดตัวนี้ถือเป็นหลักฐานสำคัญ คนร้ายเป็นชายก่อเหตุใช้อาวุธปืนชิงทองรูปพรรณ น้ำหนักรวม 160 บาท มูลค่า 7.8 ล้านบาท จากร้านทองแหง่หนึ่งในห้างดัง ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.พระอินทร์ราชา ทำงานอย่างหนัก จนกระทั่งสามารถจับกุม ผู้ก่อเหตุได้ที่บ้านพักในพื้นที่เขตสายไหม กรุงเทพฯ เป็นถึง พันจ่าเอก ชื่อ นายวรพจน์ อายุ 43 ปี แผนกขนส่งกองบิน 21 ตำบลไร่น้อย อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมของกลางเป็นสร้อยคอทองคำ 12 เส้น ปืนขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก เสื้อผ้า รองเท้า หมวก ที่ใช้สวมใส่ในการก่อเหตุ และรถกระบะอีก 1 คัน
พลตำรวจโท สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กล่าวว่า หลังรับแจ้งเหตุก็ได้หาข้อมูล หลักฐานอย่างเร่งด่วน พบ คนร้ายมีการเตรียมตัววางแผนในการก่อเหตุและการหลบหนีมาอย่างดี ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯ กำลังจะเดินทางกลับที่พักใน จังหวัดอุบลราชธานี เพราะจะกลับทุก ๆ วันศุกร์
พันจ่าเอก เตรียมศึกษาหลอมทอง นำไปขาย
ก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ พบว่า พันจ่าเอก วรพจน์ เกิดความเครียด เลยมาแวะเข้าห้องน้ำที่ห้างฯ ก่อนสังเหตุเห็นว่าร้านทองอยู่ใกล้ทางเข้า-ออก จึงกลับไปวางแผน จากนั้นวันที่ 22 มีนาคม พันจ่าเอก วรพจน์ ได้กลับมาที่ห้างดังกล่าวอีกครั้ง แต่คราวนี้เริ่มเดินดูลาดเลา พร้อมทำทีซื้อสินค้าต่าง ๆ ในห้าง
กระทั่งวันที่ 23 มีนาคม ช่วงเวลา 14.00 น. ก่อนก่อเหตุ พันจ่าเอก วรพจน์ ได้มาดูลาดเลาอีกครั้ง ทำทีมาซื้อสินค้า เมื่อเห็นทางสะดวก ก็เริ่มลงมือโดยเริ่มนำรถกระบะไปจอดในลานดิน ห่างที่เกิดเหตุไปประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดที่ได้มีการตรวจสอบแล้วว่า ไม่มีกล้องวงจรปิด รวมถึงเป็นจุดที่อับ
จากนั้นได้ทำการเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเดินเท้าเข้าไปก่อเหตุชิงทอง ก่อนหลบหนี โดยว่าจ้างวินต์รับจ้าง ให้ไปส่งใกล้กับจุดที่จอดรถกระบะที่จอดซ่อนเอาไว้ จากการสอบสวน ผู้ต้องหา รับสารภาพว่า มีปัญหาเรื่องหนี้สินส่วนตัวและบุคคลใกล้ชิด ประมาณ 5 แสนบาท จึงต้องการจะปลดหนี้ แต่สุดท้ายก็โดนจับกุมเสียก่อน นอกจากนี้ จากการเข้าไปจับกุม พบว่า ผู้ต้องหามีการสืบค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ในเรื่องของการหลอมทอง ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นการเตรียมที่จะหลอมทองเพื่อนำไปขาย
ส่วนการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทราบว่า ผู้ก่อเหตุได้ปฏิเสธ เบื้องต้นแจ้ง 2 ข้อหา ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ และพกพาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน หรือ ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร
ขณะเดียวกัน ภายหลังแถลงผลจับกุม เจ้าของร้านทองได้นำดอกไม้มาขอบคุณตำรวจที่ช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้โดยเร็ว พร้อมสามารถนำของกลาง มาคืนได้ครบทั้งหมด ส่วนหลังจากนี้ ทางร้านจะมีมาตรการป้องกันเพิ่มเติม คือ ทำลูกกรง บริเวณตรงเคาน์เตอร์ระหว่าง พนักงานขายกับผู้ซื้อ และจะเพิ่มกล้องวงจรปิดให้มากขึ้น เพื่อป้องกันและปราบปรามไม่ให้คนร้าย เข้ามาก่อเหตุได้อีก