ศาลลำพูน พิพากษาจำคุก 15 ปี อดีตสาวโรงงานหลอกหมอฟันลงทุนสูญ 68 ล้านบาท ส่วนสาวคนสนิทและพวกอีก 1 คนเจอคุก 1 ปี และ 10 ปี พร้อมให้จำเลยที่ 1 และ 3 ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายกว่า 38 ล้านบาท ขณะที่โจทก์ยื่นค้านประกันตัว ด้านสามีโจทก์ร่วม เผย ครอบครัวได้รับผลกระทบ หวังหลังจากนี้จะดีขึ้น
วันนี้ (27 มี.ค.68) ศาลจังหวัดลำพูน นัดฟังคำพิพากษาคดีที่ พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ และ น.ส.จิตรลดา โจทก์ร่วมฟ้อง น.ส.เอ (นามสมมุติ) จำเลยที่ 1 พร้อมพวกรวม 3 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง และคดีฟอกเงิน วันนี้จำเลยได้นั่งรถหรูราคาหลายล้านมาฟังคำพิพากษา ขณะที่ฝ่ายโจทก์ร่วมเดินทางมาพร้อมสามีและญาติ ซึ่งศาลได้ใช้เวลาพิจารณาคดี และตัดสินรวม 2 ชั่วโมง ภายหลังเสร็จสิ้น ศาลจังหวัดลำพูน
กรณี น.ส.เอ อดีตพนักงานโรงงานนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน ติดต่อ น.ส.จิตรลดา เจ้าของคลินิกทำฟันชื่อดังในตัวเมืองลำพูน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยเรียน ขอซื้อที่ดิน 6 ไร่ ที่ น.ส.จิตรลดาประกาศขายในราคา 7.8 ล้านบาท โดยอ้างว่าจะตั้งบริษัทและโรงงานรับซื้อกากอุตสาหกรรม น.ส.จิตรลดาจึงขายที่ให้ โดยโอนที่ดินไปก่อนและให้ น.ส.เอ นำเอกสารโฉนดไปเข้าธนาคาร หลังจากนั้น น.ส.เอ ยื่นกู้เงินจากธนาคารได้ 10 ล้านบาท แต่นำเงินให้ น.ส.จิตรลดาเพียง 3.9 ล้านบาท ค้างเงินอีก 3.9 ล้านบาท โดยเงินที่เหลือ น.ส.เอ กลับนำไปจ่ายหนี้กับเจ้าหนี้รายอื่น นอกจากนี้ น.ส.เอ ยังได้หลอก น.ส.จิตรลดา ร่วมลงทุนค้าหน้ากากอนามัย ลงทุนค้าเหล็ก และค้าทองแดง โดยสร้างสตอรี่และสร้างตัวละครหลอกให้โอนเงิน รวมความเสียหายกว่า 68 ล้านบาท ตั้งแต่ พ.ศ. 2562 เมื่อ น.ส.จิตรลดารู้ว่าถูกหลอกจึงแจ้งความดำเนินคดี
โดยศาลพิพากษาว่า น.ส.เอ กระทำผิดจริงตามฟ้อง ให้จำคุกฐานฉ้อโกงและฟอกเงิน รวม 15 ปี, จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นสาวคนสนิทของ น.ส.เอ มีความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน ให้จำคุก 1 ปี ส่วนจำเลยที่ 3 ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันฉ้อโกง จำคุก 10 ปี และให้จำเลยที่ 1 และที่ 3 ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ร่วม 38,852,556.41 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี นับจากวันที่ 26 มิ.ย.66 หรือดอกเบี้ยอัตราใหม่ตามที่เปลี่ยนแปลงโดยพระราชกฤษฎีกาบวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละ 2 ต่อปี นับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยที่ 1 และที่ 3 จะชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่การคิดดอกเบี้ยจะต้องไม่เกินอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ตามที่โจทก์ร่วมขอ
ภายหลังฟังคำพิพากษา น.ส.จิตรลดา ร้องไห้พร้อมกล่าวอย่างดีใจว่า เราถูกพรากเงินเก็บ ทรัพย์สิน รวมทั้งเครดิตของเราทั้งหมดจากเพื่อนคนนี้ และยังสร้างสถานการณ์เพื่อให้เราเติมเงินต่อยอด เอาเงินจากญาติและต้องรับผิดชอบชดใช้หนี้ด้วยตัวเองตลอด เราก็หวังจะได้เงินที่ติดค้างคืนทั้งหมด ก็หาเงินให้จนติดกันเป็นร่างแห จนต้องกู้เงินนอกระบบ และต้องดำเนินคดี หาหลักฐานสู้คดีจนชนะคดีได้ในวันนี้ ที่ผ่านมาตนอยู่มาได้ถึงวันนี้เพราะใจที่เข้มแข็งมาก และกำลังใจครอบครัว ซึ่งวันนี้ น.ส.เอก็ต้องชดใช้กรรมตามที่กระทำแล้ว
ขณะที่ สามีของ น.ส.จิตรลดา กล่าวว่า ปัญหานี้กระทบครอบครัวอย่างยิ่ง ลูกสาวคนโตไม่มีโอกาสได้ศึกษาต่อด้านแพทย์ และลูกสาวคนเล็กได้รับผลกระทบจากจิตใจจนป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ตอนนี้ใช้ยาคลายเครียด หวังว่าจากนี้ไปอะไร ๆ จะดีขึ้น และวันนี้ก็ได้แจ้งต่อศาลลำพูน เพื่อคัดค้านการประกันตัวไปแล้ว เพราะวงเงินที่ต้องชดใช้สูงมาก