วันนี้ (27 มี.ค. 68) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ไพฑูรย์ บุญศร รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.บ้านบัวขาว ได้รับแจ้งว่ามีชายคลุ้มคลั่งยาบ้าแทงคนแล้วจับกดน้ำเสียชีวิต เหตุเกิดพื้นที่หมู่ 8 บ้านเขวาทุ่ง ต.สระบัว อ.ปทุมรัตต์ จ.ร้อยเอ็ด โดยมีผู้นำหมู่บ้านได้ร่วมกันจับกุมผู้ก่อเหตุไว้ได้ ทราบชื่อ นายเจด็จ อายุ 37 ปี มีบ้านอยู่ตรงข้ามกันกับบ้านผู้เสียชีวิต จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลปทุมรัตน์
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุทราบว่าญาตินำศพผู้เสียชีวิตขึ้นจากสระน้ำพลาสติกซึ่งเลี้ยงสาหร่ายแดงเอาไว้ ทราบชื่อ นายสำรวย อายุ 63 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมเข้าบริเวณหน้าอก 8 แห่ง และห่างออกไปประมาณ 150 เมตร นายนายสุชาติ ทรงแสง ผู้ใหญ่บ้านเขวาทุ่ง และ นายสุภาพ จันโท ชาวบ้าน ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุมัดมือมัดเท้าเอาไว้รอส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุติดยาบ้ามานานหลายปี และเคยเข้ารับการบำบัดมาแล้ว ก่อนเกิดเหตุได้เดินเข้ามาในบ้านของผู้เสียชีวิต แล้วไปขอหลับนอนกับภรรยาเจ้าของบ้าน อายุ 59 ปี ซึ่งอยู่ภายในบ้าน ภรรยาผู้เสียชีวิตจึงรีบเดินหนีออกมานอกบ้าน ขณะนั้นผู้เสียชีวิตซึ่งยืนอยู่บ่อน้ำพลาสติดที่เลี้ยงสาหร่ายแดง ก็ได้เข้ามาถามว่ามาทำอะไร ภรรยาจึงบอกเรื่องที่เกิดขึ้น จากนั้นผู้เสียชีวิตได้ด่าทอออกไป แล้วไล่ให้ผู้ก่อเหตุออกจากบ้านไป
ต่อมาไม่นานผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าบ้าน แล้วถือกรรไกรปลายแหลมเดินเข้ามาบ้านผู้เสียชีวิต ก่อนที่ผู้เสียชีวิตจะบอกภรรยาให้เข้าบ้านปิดประตู แล้วไปยืนขวางไม่ให้ผู้ก่อเหตุเข้าบ้าน จึงถูกแทงไม่ยั้ง แล้วใช้ผ้าห่มที่วางอยู่บนหน้าแคร่ไม้ไผ่หน้าบ้านมาพันรอบตัวผู้เสียชีวิต จากนั้นลากตัวของผู้เสียชีวิตไปกดลงในบ่อน้ำพลาสติก หลังก่อเหตุก็ได้เดินออกจากบ้านไปพร้อมกับร้องตะโกนไปตามถนนว่า “สะใจจังเลยได้ฆ่าคนตายแล้ว” ก่อนที่ชาวบ้านจะโทรศัพท์แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบและออกตามหาผู้ก่อเหตุจนพบ โดยได้ต่อสู้กอดปล้ำกันอยู่สักพักจึงจับตัวเอาไว้ได้
ด้าน นายสีทน อายุ 62 ปี พ่อของผู้ก่อเหตุ เผยว่า ลูกชายติดยาบ้ามาเป็นเวลา 7-8 ปี และคลุ้มคลั่งทำร้ายพ่อมาแล้วจะ 4 ครั้ง จนพ่อทนไม่ไหวกลัวตาย จึงออกจากบ้านไปอยู่กับลูกสาวอีกหมู่บ้านหนึ่ง ปล่อยให้ลูกชายอยู่กับแม่ ซึ่งผู้ก่อเหตุก็ไม่เคยทำร้ายแม่ เพราะแม่คอยเอาใจ ขออะไรก็ให้ ขอเงินก็ให้ อยากกินอะไรก็หาให้ จนกระทั่งวันนี้ก็ได้มาก่อเหตุฆ่าเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ตรงข้ามกันเสียชีวิต และขอโทษครอบครัวของผู้เสียชีวิต และบอกว่าจะช่วยเหลือเยียวยาให้เท่าที่พอมีให้
นอกจากนั้นยังทราบข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุเกิดจากการขาดยา เพราะไม่กินยาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเมื่อหลายปี ผู้เสียชีวิตนั้นเคยหมั้นหมายที่จะให้ลูกสาวแต่งงานอยู่กินกับผู้ก่อเหตุ แต่เมื่อคบกันสักพักลูกสาวทราบว่าผู้ก่อเหตุติดยาบ้า จึงได้ถอยห่างออก และไปมีครอบครัวที่กรุงเทพฯ ซึ่งอาจจะเป็นเหตุฝังใจในการก่อเหตุครั้งนี้ด้วยก็เป็นได้
อย่างไรก็ตามจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าผู้ก่อเหตุนั้นยังให้การวกวนไปมา ไม่ให้การอันเป็นประโยชน์แต่อย่างใด แม้กระทั่งกรรไกรที่ใช้ก่อเหตุนั้นก็ไม่บอกว่าเอาไปทิ้งที่ไหน เพราะในบริเวณที่เกิดเหตุก็หาไม่พบ