วันนี้ (29 มี.ค.68) เวลา 08.30 น.ที่บริเวณลานพระพุทธบาท ได้จัดให้มีพิธีเปิดป่า-ปิดงาน ประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ(พระบาทพลวง)ประจำปี 2568 โดยพระวชิรกิจจากร (จำนงค์ ชยวโส) เจ้าอาวาสวัดทุ่งตาอิน ประธานฝ่ายสงฆ์ เป็นผู้จุด ธูป เทียน บริเวณแท่นบรวงสรวงโต้ะหมู่บูชาบริเวณรอยพระพุทธบาท และ ทางพลเอกสุรัตน์ วรรักษ์ กรรมการและเลขานุการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ประธานฝ่ายฆราวาส เป็นผู้จุด ธูป เทียน โต๊ะหมู่บูชาที่ศาลาธรรมสรคุณประชาสามัคคี โดยมี นายชวินทธ์ ปิ่นแก้ว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จุดเทียน ธูปบริเวณหน้าบูรพาจารย์ และนางสาวธิติกมล สุขเย็น นายอำเภอเขาคิชฌกูฏ จุดเทียน ธูป บริเวณหน้ารูปหล่อ พระครูธรรมสรคุณ (หลวงปู่เขียน) จากนั้นประกอบพิธีบวงสรวงพิธีพราหมณ์ ซึ่งในพิธีมีผู้ร่วมประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นจำนวนมากและยังมีผู้แสวงบุญจากทั่วประเทศยังคงหลั่งไหลมากเดินทางกราบนมัสการ รอยพระพุทธบาทพลวงถึงแม้จะเป็นวันสุดท้ายของประเพณีในปี 2568 โดยวันนี้จะเปิดขายบัตรขึ้นเขาให้นักแสวงบุญนมัสการรอยพระพุทธบาทถึงเวลา12.00น. จากนั้นจะมีรถวิ่งส่งนักแสวงบุญลงเขาถึงเวลา17.00น.

สำหรับประเพณี นมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง เขาคิชฌกูฏ จันทบุรี นั้นเป็นประเพณีศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยให้การเคารพนับถืออย่างมาก การนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏหรือพระบาทพลวง นับว่าเป็นเทศกาลของชาวจันทบุรี ที่ปฏิบัติกันมาช้านาน แต่เดิมเริ่มขึ้นนมัสการในวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี แต่มาระยะหลังนี้เริ่มเป็นที่รู้จักของผู้คนที่มีความเลื่อมใสศรัทธาทั้งชาวไทยและต่างประเทศ จึงได้เปิดเวลาให้นมัสการมากขึ้น กล่าวคือ ในปี พ.ศ. 2538 เป็นต้นมา ได้เปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาขึ้นนมัสการ เพิ่มขึ้นเป็น 60 วัน


เขาคิชฌกูฏ เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชน จำนวนมากที่เดินทางมาสักการะรอยพระพุทธบาท โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีน เนื่องจากรอยพระพุทธบาทพลวง ขึ้นชื่อในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ และมีความเชื่อว่าผู้ที่เดินขึ้นไปถึงยอดเขาซึ่งมีรอยพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่นั้นจะได้บุญสูง อีกทั้งยังเชื่อกันว่า การได้มานมัสการรอยพระพุทธบาทพลวงบนยอดเขาคิชฌกูฏ เปรียบได้กับการเข้าเฝ้าองค์พระศาสดา ถือเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ ในแต่ละปีจึงมีพุทธศาสนิกชนนับแสนหลั่งไหลมาสักการะรอยพระพุทธบาทด้วยความศรัทธา โดยในปี 2568 นี้ มีกำหนดการ เปิดขึ้นเขาคิชฌกูฏ เพื่อนมัสการรอยพระบาท ในวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2568 ถึงวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2568. "1ปี 1ครั้ง กับ1คำอธิฐานที่เป็นจริง"
