สนามข่าว 7 สี - เมื่อวาน (31 มี.ค.) 4 คนจีนที่ช่วยกันขนเอกสารออกจากจุดที่เกิดเหตุ เข้าพบตำรวจเพื่อรับทราบข้อหา "เข้าพื้นที่ห้ามเข้า" แล้ว ส่วนที่ตั้งบริษัท "ไชน่า เรลเวย์ฯ" ซึ่งมีเบาะแสว่าย้ายออกจากย่านพุทธบูชาไปแล้วนั้น ล่าสุด ทีมข่าวพบเบาะแสที่ตั้งใหม่แล้ว
ที่อยู่ใหม่ ไชน่า เรลเวย์ฯ กลายเป็นห้องเช่า
หลังจากที่ สนามข่าว 7 สี ได้ไปตรวจสอบอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ที่ย่านพุทธบูชา หลังพบข้อมูลว่าเป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมค้าชาวจีนที่ร่วมกับเอกชนไทยก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินที่พังถล่ม และพบว่าน่าจะย้ายที่อยู่ไปแล้ว
ล่าสุด ทีมข่าวยังเกาะติดต่อเนื่อง หลังจากทราบข้อมูลว่า บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ได้มาตั้งอยู่ในซอยวิภาวดีรังสิต 2 แยก 4 แขวงและเขตดินแดง ซึ่งอาจเป็นสำนักงาน หรือสถานที่ดำเนินงานของบริษัทแห่งนี้
พอไปถึงก็พบว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นบ้าน 3 ชั้น อยู่ในรั้ว มีคนอยู่ข้างใน เดินเข้า-ออกเป็นระยะ
ระหว่างสังเกตการณ์ เราได้เจอชายคนหนึ่งเดินมาปิดประตูรั้วบ้าน จึงสอบถามว่า ที่นี่คือ "บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 จำกัด" หรือไม่ ชายคนดังกล่าวปฏิเสธว่า "ไม่ใช่บริษัทรับเหมาก่อสร้างแต่อย่างใด แต่เปิดเป็นห้องเช่า" ก่อนเดินเข้าไปในบ้าน
จากการสอบถามกับชาวบ้าน เล่าว่า ก่อนหน้านี้บ้านหลังดังกล่าวเคยติดป้ายชื่อบริษัทของชาวจีน เพิ่งมาเช่าเปิดเป็นบริษัทได้ประมาณ 2 ปี ทำงานเกี่ยวกับรับเหมาก่อสร้าง
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ บริษัทที่มีชื่อเดียวกันนี้เมื่อ 4 วันที่แล้ว เพิ่งประกาศรับสมัครงานอย่างน้อย ๆ 10 ตำแหน่ง เพื่อไปทำงาน 3 ที่ ที่แรก คือ อาคาร สตง. ที่เกิดปัญหา, ที่ที่ 2 อยู่ในจังหวัดแพร่ และที่สุดท้ายเป็นไซต์งานก่อสร้าง สน.สุทธิสาร ซึ่งต้องตามกันต่อว่าเป็นการก่อสร้างอะไร มีข้อมูลส่วนไหนที่จะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่
ไชน่า เรลเวย์ฯ รับงานสร้างศูนย์ฝึกมวย
ขณะที่เพจ "CSI LA" โพสต์ข้อมูลอ้างว่า "บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 จำกัด" ได้ไปรับงานจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) สร้างอาคารศูนย์ฝึกกีฬามวยสากลมาตรฐานระดับสากล มูลค่า 608 ล้านบาท ที่หัวหมาก ตั้งแต่ปี 2564 จนถึงขณะนี้ยังสร้างไม่เสร็จ
ล่าสุดเพจ Facebook "กองประชาสัมพันธ์ กกท." โพสต์ยืนยันว่า บริษัทดังกล่าวมาร่วมก่อสร้างจริง เป็นการร่วมทุนกับบริษัทที่ กกท. ว่าจ้างในรูปแบบกิจการร่วมค้า ก่อสร้างเสร็จแล้ว 80 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าจะเสร็จสิ้นในปีนี้
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯ กกท. สั่งตรวจสอบอย่างละเอียดในทุกๆ อาคารของ กกท. รวมถึงอาคารนี้ที่กำลังก่อสร้าง ซึ่งผลสรุปว่าโครงสร้างหลักแข็งแรง และก่อสร้างต่อได้
4 ชาวจีนขนแฟ้มเข้ารับทราบข้อหา
กรณีชายชาวจีน 4 คน ที่หอบแฟ้มเอกสารออกจากจุดที่อาคาร สตง. ถล่ม แม้เลยจากเวลานัดประมาณเกือบ 3 ชั่วโมง แต่ก็ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ เพื่อรับทราบข้อหา "เข้าพื้นที่ห้ามเข้า" และยังขาดอีก 1 คน ที่เป็นระดับผู้บริหาร ซึ่งตำรวจได้เรียกให้มาพบด้วย แต่ยังไม่มา
มีข้อมูลรายงานข่าวว่า เอกสาร 30 แฟ้ม ปัจจุบันถูกตำรวจอายัดไว้เป็นของกลางในคดี ขณะเดียวกันทราบว่ายังมีข้อมูลสำคัญอีกจำนวนมากถูกเก็บไว้ชั้นที่ 4 ของอาคารที่ไม่ได้พังถล่มลงมา ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐานอยู่ระหว่างเตรียมเข้าไปเก็บเอาข้อมูลดังกล่าวมาตรวจสอบ