ข่าวภาคค่ำ - นายกรัฐมนตรี สั่ง 8 หน่วยงาน เร่งสืบหาต้นต่อ สาเหตุตึก สตง. ถล่ม ย้ำต้องมีคนรับผิดชอบ
นายกฯ สั่ง 8 หน่วยงาน เตรียมแผนรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน
โดย 8 หน่วยงานนี้ ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่ทำแผนเผชิญเหตุ ป้องกันภัยพิบัติ, กระทรวงการต่างประเทศ หาผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ, กระทรวงสาธารณสุข เตรียมการรักษา และฟื้นฟูจิตใจ, กระทรวงการท่องเที่ยวฯ สร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบระบบเตือนภัยธรรมชาติให้พร้อมใช้งาน กระทรวงศึกษาธิการ ทำหลักสูตรรับมือภัยพิบัติ กระทรวงคมนาคม ตรวจสอบความพร้อม และความปลอดภัยเส้นทางคมนาคม และ สำนักนายกรัฐมนตรี ประสานงานเรื่องการเยียวยา
ก.พาณิชย์ สั่งสอบผู้รับเหมา นอมินีต่างชาติ
ด้าน กระทรวงพาณิชย์ ให้คณะกรรมการชุดใหญ่ ที่มี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาตรวจสอบว่า บริษัทก่อสร้างเป็นนอมินีให้นายทุนต่างชาติหรือไม่ โดยมอบอำนาจให้ดำเนินการอย่างเต็มที่ และรายงานผลการตรวจสอบภายใน 7 วัน
ก.อุตสาหกรรม บุกโรงงานเหล็ก จ.ระยอง พรุ่งนี้
และวันพรุ่งนี้ ผู้แทนจากกระทรวงอุตสาหกรรม จะลงพื้นที่ตรวจสอบกระบวนการผลิตเหล็กที่โรงงานในอำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นต้นทางของเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างตึก สตง. เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการพิจารณาว่ามีความผิดถึงขั้น เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานเหล็กหรือไม่
DSI จ่อ รับคดีตึก สตง.ถล่ม เป็นคดีพิเศษ
ส่วนกรมสอบคดีพิเศษ เห็นว่าคดีตึกถล่ม มีประเด็นที่อาจเกี่ยวข้องกับความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และ พ.ร.บ.การเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หากสืบสวนแล้วมีความผิดเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ ให้รีบเสนอคณะกรรมการพิจารณารับไว้เป็นคดีพิเศษ เพื่อทำความจริงให้ปรากฏโดยเร็ว
นายกฯ สั่งปรับรูปแบบ ทรท. รายงานสถานการณ์ฉุกเฉิน
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี สั่ง กสทช. ปรับรูปแบบการรายงานเหตุสำคัญของประเทศผ่าน โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) โดยให้ทุกสถานีต้องตัดเข้ารายการสดทันที เมื่อมีเหตุฉุกเฉินรุนแรง หาก นายกรัฐมนตรี แถลงด้วยตัวเอง ให้ ทรท. แจ้งเครือข่ายล่วงหน้าอย่างน้อย 10-15 นาที แต่ถ้าเป็นบุคคลอื่นแถลง ให้ถ่ายทอดผ่าน ช่อง NBT เพื่อให้ทั้งคนไทยและต่างชาติรับทราบข้อมูลที่สำคัญได้ทันท่วงที