สนามข่าว 7 สี - ผ่านไปกว่า 100 ชั่วโมงแล้ว สำหรับปฏิบัติการค้นหาและกู้ชีพผู้ที่สูญหายจากเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินพังถล่ม ล่าสุดเมื่อวาน (1 เม.ย.) พบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย และกลางดึกวันนี้ (2 เม.ย.) พบเพิ่มอีก 1 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 15 ราย
ภาพรวมปฏิบัติการเมื่อวาน (1 เม.ย.) เริ่มใช้เครื่องมือในการเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนขนาดใหญ่ เพื่อเปิดทางเข้าสู่โครงสร้างด้านในอาคาร ส่วนการใช้เครื่องมือสแกนพบผู้สูญหาย 12 ร่าง แต่ไม่พบความเคลื่อนไหว ซึ่งยังนำออกมาในทันทีไม่ได้ เพราะมุ่งเป้าที่ผู้รอดชีวิตเป็นลำดับแรก
"ผู้ว่าฯ ชัชชาติ" มองว่ามีโอกาสพบผู้สูญหาย และรอดชีวิตมากที่สุด คือ จุด B และ C เพราะอยู่ใกล้ทางหนีไฟ ติดกับอาคารจอดรถ จึงมีคนงานหนีไปจุดดังกล่าวจำนวนมาก ส่วนโซน A และ D มีโอกาสรอดน้อยมาก เพราะอาคารล้มลงมาแบบแพนเค้ก
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าเมื่อช่วงค่ำวานนี้ อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภัยพิบัติแห่งชาติ เดินไปให้ข้อมูลต่อสื่อฯ ในประเด็นปฏิบัติการครั้งนี้ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้เริ่มปฏิบัติการอย่างจริงจัง เพราะนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้แค่ 1 ราย
ปฏิบัติการตอนนี้ถือว่าเสียโอกาส และเสียเวลาในการช่วยชีวิต เพราะศักยภาพทีมกู้ภัยของไทยไม่แพ้ชาวต่างชาติ แต่มีการสั่งการที่ไม่เป็นหนึ่งเดียว และใช้ความรู้สึกในการค้นหา
อาจารย์ชาติชาย กล่าวว่า เหตุการณ์ผ่านมา 100 ชั่วโมง ทางการแพทย์คิดที่ 72 ชั่วโมง จากนี้กระบวนการเอาคนออกจากอิฐควรจะจบลงแล้ว หลังจากนี้เป็นกระบวนการเอาอิฐออกจากคน หากหวังจะมีผู้มีชีวิตรอด
ในเวลาต่อมา "ผู้ว่าฯ ชัชชาติ" ยังคงไลฟ์ผ่าน Facebook ให้เห็นการทำงานของทีมกู้ภัยในจุดเกิดเหตุต่อเนื่อง แต่ไม่ได้พูดถึง หรือตอบโต้ในประเด็นที่ "อ.ชาติชาย" ให้สัมภาษณ์สื่อฯ เพียงแต่มีบางจังหวะที่พูดในไลฟ์ว่า "อาจมีบางคนที่น้อยใจที่ไม่ได้เข้าไป แต่ก็ต้องผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป" ส่วนข้อวิจารณ์ต่าง ๆ ก็จะเอามาปรับปรุง ทั้งการจัดระเบียบ, การแบ่งงาน และการสื่อสาร
สำหรับเหตุการณ์อาคาร สตง. ถล่มครั้งนี้ถือว่าได้ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างมาก ซึ่งในการประชุม ครม. เมื่อวานก็มีการหยิบเอาประเด็นต่าง ๆ มาหารือกันอย่างกว้างขวาง และนายกฯ สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงของสาเหตุที่อาคารถล่ม รวมถึงตรวจสอบบริษัทรับเหมาก่อสร้าง และบริษัทผลิตเหล็กที่ใช้ก่อสร้าง เพื่อตอบให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ขณะที่ล่าสุดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เพจ Facebook สถานทูตจีน ได้ชี้แจงสื่อฯ หลังถูกโทรศัพท์ถามเกี่ยวกับประเด็นวิสาหกิจจีนในไทยในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
โดยยืนยันได้กำชับให้บริษัทที่มาทำธุรกิจในไทยปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมเรียกร้องบริษัทจีนที่เกี่ยวข้อง ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ระหว่างกระบวนการสอบสวนหาสาเหตุ โดยเชื่อว่าการสอบสวนหาสาเหตุของรัฐบาลไทยจะนำไปสู่ข้อสรุปที่เป็นวิทยาศาสตร์และยุติธรรม
