สนามข่าว 7 สี - เมื่อวาน (2 เม.ย.) ชุดปฏิบัติงาน "สุดซอย" กระทรวงอุตสาหกรรม เข้าตรวจสอบโรงงานของ "บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด" เพื่อเข้าไปเก็บตัวอย่างเหล็ก หลังเกิดเหตุอาคาร สตง. ถล่ม โดยประเด็นสำคัญ คือ ได้ให้โรงงานไปตรวจสอบย้อนหลังถึงปี 2563 ว่าได้ขายเหล็กขนาด 20 มม. และ 32 มม. ไปให้ใครบ้าง แต่ขณะที่มีการลงพื้นที่ ทางตัวแทนโรงงานได้ออกมาทักท้วงถึงประเด็นการตรวจสอบเหล็ก ทำให้ต้องอธิบายกันยืดยาว
ประเด็นที่มีการถกเถียงคือตัวแทนโรงงานฯ มองว่าเกณฑ์การตรวจสอบเหล็กของ สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้เหล็กจากโรงงานฯ ไม่ผ่านมาตรฐานถึง 2 ครั้ง และขอให้นำเหล็กไปตรวจกับสถาบันยานยนต์แบบคู่ขนาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ไม่ขัดข้อง
สำหรับการลงพื้นที่เมื่อวาน (2 เม.ย.) วัตถุประสงค์หลักคือ ตรวจสอบว่าโรงงานฯ แห่งนี้ยังดำเนินงานอยู่หรือไม่ รวมถึงต้องการตรวจสอบเส้นทางเหล็กที่ถูกขายออกสู่ท้องตลาด หลังเกิดเหตุอาคารของ สตง. พังถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว และเหล็กที่ใช้ก่อสร้างส่วนหนึ่งมาจากโรงงานนี้
ส่วนเหล็กเส้นที่ถูกอายัดไว้ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา รวม 2,441 ตันยังอยู่ครบ และไม่ได้ถูกเคลื่อนย้าย หรือสูญหาย
หลังจากนั้นได้มีการแถลงข่าว โดย สมอ. ให้โรงงานชี้แจงการขายเหล็กเส้น ขนาด 20 และ 32 มิลลิเมตร ย้อนหลังถึงปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเริ่มก่อสร้างอาคาร สตง. ภายใน 7 วัน หากเพิกเฉยจะถือว่าไม่ให้ความร่วมมือ
ด้านตัวแทนโรงงานฯ ยืนยันว่าไม่ทราบว่าเหล็กถูกขายไปให้ใครบ้าง เพราะขายให้พ่อค้าคนกลาง พร้อมขอความเป็นธรรมว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่ทราบว่าอาคาร สตง. ใช้เหล็กของโรงงานมากน้อยเพียงใด
ยังมีอีกเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับโรงงานแห่งนี้ เพราะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบปริมาณ "ฝุ่นแดง" สูงกว่าที่โรงงานเคยแจ้งไว้หลายเท่าตัว จากเดิมแจ้งครอบครอง 2,245 ตัน แต่การตรวจสอบล่าสุดพบมีมากถึง 43,000 ตัน
โดยตัวแทนโรงงานฯ ชี้แจงไม่ได้ว่า "ฝุ่นแดง" เพิ่มขึ้นมาได้อย่างไร ยอมรับแต่เพียงว่ามีการขนย้ายไปจำหน่ายเพื่อไปสกัดแร่ซิงค์
และหลังจากชี้แจงว่าจะตรวจสอบเรื่อง "ฝุ่นแดง" ตัวแทนบริษัทฯ ก็ได้รีบออกจากห้องประชุมทันที โดยอ้างว่าต้องรีบไป และไม่ได้ให้ชื่อกับนามสกุลแก่ผู้สื่อข่าวด้วย แม้ผู้สื่อข่าวพยายามถามหลายรอบ