จังหวัดนครพนม มอบเงิน-สิ่งของพระราชทาน ให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุตึกถล่ม เบื้องต้นเยียวยา 2 ล้าน เตรียมเผาร่าง ส่งดวงวิญญาณ บุญรอด หัวอกพ่อแม่ไม่มีใครอยากได้เงินแบบนี้ จะใช้ประหยัดให้เกิดประโยชน์ที่สุด คนหมู่บ้านยังรอปาฏิหาริย์ หนุ่ม 18 ปี สถานะผู้สูญหาย
วันนี้ 3 เม.ย.68 ครอบครัวเตรียมพิธีฌาปนกิจศพ นายบุญรอด โอทาตะวงค์ อายุ 34 ปี แรงงานผู้เสียชีวิตในเหตุตึก สตง.ถล่ม จากเหตุแผ่นดินไหว ก่อนหน้านี้ครอบครัวได้ทำพิธีสวดพระอภิธรรมศพที่บ้าน นายอุลัย โอทาตะวงค์ อายุ 62 ปี พร้อมภรรยา นางสุดา โอทาตะวงค์ อายุ 61 ปี พ่อแม่ผู้เสียชีวิต ยอมรับว่า ยังทำใจไม่ได้ เพราะสูญเสียลูก พอใจหน่วยงานที่ดูแลชดเชยเยียวยา มากเท่าไหร่ไม่คุ้ม แต่เมื่อเกิดแล้ว ต้องรับสภาพ และขอยืนยันว่า เงินที่ได้มาจะใช้จ่ายอย่างประหยัดคุ้มค่า เพราะแลกมาด้วยชีวิตลูก ถือว่า เขาไม่อยู่แต่เขาดูแลเรา
วานนี้ (2 เม.ย.68) นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นายกเหล่ากาชาดจังหวัด ปลัดจังหวัด พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด นายอำเภอเมืองนครพนม สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเมืองนครพนม สาธารณสุขอำเภอเมืองนครพนม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจ พร้อมมอบเงินและสิ่งของพระราชทาน มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ให้แก่ครอบครัวของนายบุญรอด โอทาตะวงค์ ผู้ประสบภัยเสียชีวิตในเหตุตึก สตง. ถล่ม ในเหตุแผ่นดินไหว ซึ่งตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่ 221 หมู่ที่ 6 บ้านคำสว่าง ตำบลวังตามัว อำเภอเมืองนครพนมมอบเงินและสิ่งของพระราชทาน มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต
ก่อนเดินทางกลับคณะของผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ให้กำลังใจครอบครัวของผู้เสียชีวิต โดยระบุว่า “หัวอกขอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ ไม่มีใครอยากได้เงินแบบนี้ แต่ภาครัฐและเอกชนรวบรวมนำเงินมามอบให้ เพื่อเป็นกำลังใจกับพ่อแม่ พร้อมกำชับให้ดูแลการใช้จ่ายเงินให้ดี”
เบื้องต้นมีรายงานว่าครอบครัวของนายบุญรอดได้รับเงินเยียวยาเกือบ 2 ล้านบาท นอกจากนี้ ภายในหมู่บ้านมีผู้เดินทางไปทำงานในไซต์งาน 5 คน ปลอดภัย 3 คน เดินทางกลับบ้านแล้ว โดยนายบุญรอด ถูกพบเสียชีวิต ส่วนนายจักรกฤษณ์ อายุ 18 ปี เพื่อนบ้าน ยังเป็นผู้สูญหาย ซึ่งคนทั้งหมู่บ้านยังหวังให้เกิดปาฏิหาริย์
สำหรับนายบุญรอด ผู้เสียชีวิต ทำงานเป็นช่างเชื่อมได้ค่าแรงวันละ 900 บาท ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้กลับบ้าน เพราะหวังที่จะเก็บเงินสร้างครอบครัว ดูแลพ่อแม่ ส่วนใหญ่คนในวัยแรงงานในหมู่บ้าน หลังฤดูเก็บเกี่ยวมักจะเดินทางไปทำงานรับจ้างในต่างจังหวัด