“ทวี” มั่นใจ หลังดีเอสไอรับเคสตึกสตง.ถล่ม เป็นคดีพิเศษ สามารถบล็อกเส้นทางคนผิดหนีออกนอกประเทศได้ ยืนยันทำคดีเร็วบนพยานหลักฐาน แต่ยอมรับยังขาดการบูรณาการ
วันนี้ (4 เม.ย.68) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่มีความเป็นห่วงว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุกรณีตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ถล่ม จะหลบหนีไปต่างประเทศ ว่า หน้าที่ของพนักงานสอบสวน นอกจากแสวงหาข้อเท็จจริงแล้วรวบรวมพยานหลักฐานพิสูจน์ความบริสุทธิ์ และความผิดแล้ว ยังต้องมีหน้าที่สำคัญ คือ นำตัวผู้กระทำผิดมาฟ้องลงโทษ ซึ่งในเรื่องนี้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เวลาจะทำอะไรจะดูทุกเรื่องเพราะมีสำนักสืบสวนสะกดรอยอยู่
“เมื่อรับเรื่องมาเป็นคดีพิเศษแล้ว ถ้ารู้ที่อยู่ จะต้องมีการติดตาม ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้ (4เม.ย.)ยังบอกว่าอาจจะต้องประสานงานกับทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อตรวจสอบการเดินทางเข้า-ออกประเทศด้วย กฎหมายสอบสวนคดีพิเศษ ได้ดำเนินการ จัดการกับผู้มีอิทธิพลอยู่แล้ว ไม่มีใครอยู่ในกฎหมาย หากพยานหลักฐานไปถึง ก็ต้องดำเนินการ และเมื่อเช้าที่ผ่านมา ยังได้รับฟังข้อมูลจากพนักงานสอบสวนที่เสนอมา ก็ถือว่ารอบครอบ”
“ความรวดเร็ว ที่ยืนอยู่บนพยานหลักฐาน จึงได้พยายามให้รวบรวมพยานหลักฐานอย่างรวดเร็ว เช่นกรณีคนไทยที่มีชื่อเกี่ยวข้องก็ได้มีการดำเนินการแล้ว”
นายทวี ยืนยันว่า ตอนนี้ตรวจสอบเฉพาะตึก สตง.ก่อน ส่วนอื่นเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องไปดำเนินการ ทั้งนี้ได้มีการสอบถาม ถึงหลักฐานทางทะเบียน ของบริษัทกิจการร่วมค้าหรือจ๊อยท์เวนเจอร์ ปรากฏว่ากระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงว่าไม่ได้รับผิดชอบ เรื่องพวกในเรื่องเหล่านี้แจ้งว่ารับผิดชอบเฉพาะบริษัท นิติบุคคล ตามกฎหมายแพ่งกำหนด ดังนั้นข้อมูลจึงไปอยู่ที่กระทรวงการคลัง แต่กระทรวงการคลังก็ไม่ได้ทำทะเบียนไว้ เราจึงต้องไปไล่ตามสรรพากรต่าง ๆ เวลาที่มีการเสียภาษี ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่น่าจะมีคนรับผิดชอบ โดยอาจจะเพิ่มงานให้กระทรวงพาณิชย์เข้ามาดู เพราะอย่างน้อยเชื่อว่าน่าจะมี 2-3 บริษัทร่วมทุนกัน โดยในส่วนของบริษัทที่ไม่ใช่คนไทย กระทรวงพาณิชย์ก็ดูอยู่แล้ว และที่สำคัญ เมื่อไปอ่านสัญญาบางครั้งว่า ก็มีช่องว่าง ซึ่งประเทศไทยมีกฎหมายดีๆ เยอะ แต่เวลา ใช้ กลับใช้เป็นส่วนๆ ขาดการบูรณาการเท่าที่ควร เหมือนเป็นอาณานิคมของกฎหมายหน่วยใดหน่วยหนึ่ง ดังนั้น ดีเอสไอจึงต้องประสานงานกัน แม้แต่เรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งการเข้าไปสู่เนื้องาน เช่น พยานหลักฐานที่ต้องไปเก็บจะทำอย่างไร แต่การช่วยเหลือชีวิตถือเป็นอันดับแรก แต่หากเราปล่อยให้วัตถุพยานถล่มลงไปเลย เราก็จะไม่มีพยานหลักฐานไปยืนยัน ดังนั้นขอให้ไปประสาน และพยายามเก็บวัตถุพยาน ให้ได้มากที่สุด จึงทำให้พนักงานสอบสวนต้องประสานกับนิติวิทยาศาสตร์ และวิศวกรต่างๆ โดยเฉพาะผู้ที่เข้าไปช่วยชีวิตน่าจะบันทึกภาพเอาไว้ด้วย
กรณีของบริษัทไช่น่าเรลเวย์ รับโครงการอื่นของรัฐ จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบและและพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกล่าวว่า มีหน่วยงานที่เราคงต้องเอาข้อมูลไปให้ เช่นในเบื้องต้นที่ตรวจจากสรรพากร พบว่าเขาไปทำกิจกรรมร่วมค้า29 โครงการมูลค่าสองหมื่นกว่าล้านบาท แต่ เราจะโฟกัสไปในเคสของเราก่อน ส่วนกรณีอื่นต้องส่งไปให้ภาครัฐได้ดู