จับสึก! พระสายเขียว ปรี่ตบหน้าลูกศิษย์ หลังโดนทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมัน ด้านลูกศิษย์ เผยเวลาขับรถให้ไม่เคยได้รับค่าแรง แถมชอบดูดกัญชาบนรถ ด้านพระสายเขียว ยอมรับดูดกัญชาทุกวัน เพราะทำให้เข้าถึงกรรมฐาน
เมื่อเวลา 19.50 น. วานนั้ (5 เม.ย. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ศรีมหาโพธิ ได้รับแจ้งมีพระภิกษุตกรถ อยู่ภายในบริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมถนน 304 ฝั่งกบินทร์บุรี มุ่งหน้าบ้านคลองรั้ง
หลังจากรับแจ้ง จึงได้เดินทางไปปตรวจสอบ พบหลวงตาตุ้ม อายุ 63 ปี ดินทางมาจาก จ.สระแก้ว ได้นั่งรถยนต์มากับลูกศิษย์ชื่อ “เจี๊ยบ” พร้อมหลวงตาแม้น พอมาถึงปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุ หลวงตาตุ้มได้บอกกับทางนายเจี๊ยบ (คนขับรถ) ที่ตนเองจ้างให้ขับรถวันละ 300 บาท ให้จอดรถเพื่อจะไปซื้อสเปรย์ แต่ถูกนายเจี๊ยบ ทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้พา หลวงตาตุ้ม อายุ 63 ปี ไปส่งที่วัดเกาะเค็ด ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ
เมื่อ หลวงตาตุ้ม ไปถึงวัดก็ได้เดินตรงไปหานายเจี๊ยบ ที่นั่งอยู่โต๊ะหินอ่อน ก่อนที่นายเจี๊ยบได้ลุกขึ้นมากอดปล้ำกับทางหลวงตาตุ้ม ทำให้ชาวบ้านต้องเข้ามาห้ามและจับแยกกันออกไป ก่อนที่หลวงตาตุ้ม จะหยิบขวดน้ำขว้างใส่หน้านายเจี๊ยบ อีกครั้ง และเดินปรี่ไปตบบริเวณท้ายทอยหลวงตาแม้น ที่ยืนอยู่ใกล้กัน ชาวบ้านที่อยู่ในที่เกิดเหตุและรักษาการเจ้าอาวาสจึงได้เข้ามาห้ามปราม ก่อนที่หลวงตาตุ้มจะเดินกลับขึ้นไปกุฏิ
นายเจี๊ยบ กล่าวว่า หลวงตาตุ้ม ที่ใช้ตนขับรถให้ ตนไม่เคยได้รับค่าแรง และทุกครั้งที่เดินทางไปกับหลวงตาตุ้ม มักจะดูดกัญชาอยู่ภายในรถ และในรถยังมีกัญชาของหลวงตาตุ้ม ซึ่งจากการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบกัญชาอยู่ภายในรถ จำนวน 2 ห่อ ที่ทางหลวงตาตุ้ม ยอมรับว่าตนมีการเสพกัญชาทุกวัน เพราะการเสพกัญชาทำให้ตนรู้สึกได้อารมณ์เข้าถึงกรรมฐาน ทำให้จิตนิ่งและทำให้เข้าถึงในรถพระธรรม ซึ่งกัญชา ตนเองจะสั่งซื้อครั้งละ 2 ห่อ ๆ ละ 100 บาท
ต่อมา ทางคณะสงฆ์และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชาวบ้าน ที่อยู่ในพื้นที่ต่างลงความเห็นกันว่า ต้องการที่จะให้หลวงตาตุ้มลาสิกขาบท ทำให้ทางคณะสงฆ์ต้องทำการสึกหลวงตาตุ้ม และให้ออกจากวัดในช่วงกลางดึกทันที