วันนี้ (6 เม.ย. 68) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (บก.ปพ.) ร่วมกันจับกุม นายสุทิน ในความผิดฐาน "ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบสามปี ซึ่งไม่ใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามฯ"
โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณข้างเรือโป๊ะหลังท่าเรือขนส่งสินค้า บริษัทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ท่าเจ้าสนุก อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา
สืบเนื่องจาก พี่ชายผู้เสียหาย ได้เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อเดือนเม.ย. 63 และจำวัดอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ใน อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ พร้อมกับศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนวัดดังกล่าว โดยระหว่างที่บวชอยู่นั้น นายสุทิน ซึ่งเป็นญาติห่าง ๆ กับพระรูปดังกล่าว ก็ได้บวชและพักอาศัยอยู่ที่วัดเดียวกันในชื่อ "พระสุทิน"
ในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้ปกครองของเด็กชายเอ อายุ 6 ขวบ และเด็กชายบี อายุ 9 ขวบ ซึ่งเป็นน้องชายของพระรูปดังกล่าว และมีศักดิ์เป็นญาติห่าง ๆ กับพระสุทิน ก็มักจะได้มานอนพักที่วัดในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์หรือช่วงปิดเทอม โดยผู้ปกรครองมักจะพามาส่งในเย็นวันศุกร์และรับกลับในเย็นวันอาทิตย์ กระทั่งพระรูปดังกล่าว ลาสิกขาบท ผู้ปกครองจึงไม่ได้ส่งบุตรชายไปที่วัดอีก
ต่อมา ในเดือนต.ค. 67 ผู้ปกครองสังเกตเห็นความผิดปกติของเด็กชายเอ เมื่อตรวจสอบดูก็พบแผลบริเวณก้น จึงได้พาบุตรชายไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ผลการตรวจวินิจฉัยพบว่าเด็กชายเอ ติดเชื้อโรคหูดบริเวณทวารหนัก ซึ่งแพทย์ระบุว่าเป็นโรคที่มักพบในผู้ใหญ่ และอาจมีสาเหตุมาจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ
จากนั้น ผู้ปกครองได้สอบถามบุตรชายทั้งสองอย่างละเอียด จนกระทั่งทราบความจริงว่าทั้งสองถูกนายสุทิน ซึ่งขณะนั้นยังคงอยู่ในสมณเพศในชื่อ พระสุทิน กระทำชำเราภายในกุฏิของวัดหลายครั้ง ในช่วงระหว่างเดือนเม.ย. 63 ถึง มี.ค. 67 ซึ่งเป็นช่วงที่ทั้งสองคนไปพักที่วัดกับพี่ชาย ผู้ปกครองจึงได้ตัดสินใจพาบุตรชายทั้งสองคนเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับนายสุทิน ผู้ต้องหาในข้อหากระทำชำเราเด็ก โดยยืนยันที่จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
จากการสืบสวนอย่างหนัก จึงได้พบนายสุทิน หรือ อดีตพระสุทิน ซึ่งเป็นเลขาเจ้าอาวาสฯ ผู้ต้องหาคดีข่มขืนเด็กอย่างต่อเนื่อง หลังทราบว่าได้ลาสิกขาและหลบหนีไปซ่อนตัวในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา
จนกระทั่งพบแหล่งกบดานและสามารถบุกจับกุมตัวนายสุทินได้ขณะกำลังหลบหนีอยู่บนเรือกลางแม่น้ำป่าสัก จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลุยป่าและพายเรือไปเพื่อให้เข้าถึงตัวผู้ต้องหา จากนั้นได้ควบคุมตัวนายสุทิน ส่งไปยัง สภ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป