ลุงวัย 60 ปี หยิบปืนลั่นไกเข้าศีรษะจบชีวิตตัวเอง ทางพี่สาวเผยน้องชายป่วยหลายโรคและมักจะบ่นน้อยใจลูกไม่ค่อยมาเยี่ยม คาดคงคิดมากน้อยใจลูกและเครียดจากโรคประจำตัว
วันนี้ (8 เม.ย. 68) ร.ต.อ.กุณช์พิสิษฐ์ ศรีสงคราม รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองหาน ได้รับแจ้งเหตุชายใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต ภายในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่บ้านพังซ่อน ม.6 ต.พังงู อ.หนองหาน จ.อุดรธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมตำรวจชุดสืบสวน, แพทย์เวร โรงพยาบาลหนองหาน และอาสากู้ภัยส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี จุดบริการ อ.หนองหาน
ณ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสวนมีบ้านปูนชั้นเดียว 1 หลัง และมีกระท่อม 1 หลัง บริเวณหลังบ้านระหว่างบ้านกับกระท่อมนา พบร่างของ นายแดง อายุ 60 ปี เจ้าของบ้าน นอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้นทับปืนสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก พบร่องรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่ขมับซ้ายกระสุนฝังในมีเลือดและมันสมองไหลนองพื้น บริเวณโดยรอบไม่มีร่องรอยการต่อสู้ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6–7 ชั่วโมง
เบื้องต้น ทางครอบครัวไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงมอบร่างให้ครอบครัวไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ซึ่งทางญาติพี่น้อง ลูกสาว และอดีตภรรยา ได้มากราบศพ และขอขมาลาโทษเป็นครั้งสุดท้าย บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
ทาง นายอัศนี อายุ 62 ปี พี่ชายของผู้ตาย เล่าว่า เวลาประมาณ 09.00 น. มีชาวบ้านขับรถไถผ่านบ้านผู้ตายเห็นผู้ตายนอนคว่ำหน้าอยู่ที่พื้น ทางชาวบ้านจึงไปบอกญาติ พวกตนจึงพากันออกมาดูก็เห็นน้องชายนอนคว่ำเสียชีวิต ตนจึงบอกทุกคนว่าอย่าเพิ่งเข้าไปใกล้ และได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งน้องชายมีโรคประจำตัวหลายโรคและได้หย่ากับภรรยา ส่วนลูกชายไปทำงานกรุงเทพฯ ส่วนลูกสาวแต่งงานไปแล้ว ซึ่งผู้ตายอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว ตนไม่รู้ว่าทำไมน้องชายถึงทำแบบนี้ แต่ไม่คิดว่าเป็นการถูกทำร้ายหรือการชิงทรัพย์
ด้าน นางอัมพร อายุ 65 ปี พี่สาวของผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายสร้างบ้านนี้มา 4 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีเงินต่อเติมหรือต่อไฟฟ้าต่อน้ำประปาให้แล้วเสร็จ น้องชายมีโรคประจำตัวหลายโรค คือ โรคเบาหวาน และกล้ามเนื้ออ่อนแรง น้องชายเคยเป็นผู้รับเหมา หลังจากป่วยก็มาอยู่ที่นี่คนเดียว ตนจะเป็นคนหาข้าวหาน้ำให้กิน เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ตนเอาข้าวมาให้น้องและยังคุยกับน้องตามปกติ ก่อนหน้านี้น้องชายเคยบ่นน้อยใจลูกไม่ค่อยมีใครมาเยี่ยมหา ซึ่งน้องชายน้อยใจถึงขนาดว่าจะยกที่นา 3 ไร่ ให้กับลูกชายของตน เพราะลูกชายตนทำงานอยู่ต่างประเทศและส่งเงินมาให้ใช้ โดยจะไม่ให้อะไรลูกชายและลูกสาวของตัวเอง เพราะให้ไปเยอะแล้ว โดยลูกชายของผู้ตายเอาที่ดินและบ้านอีกหลังไปขายได้เงินมากว่า 200,000 บาท ไปใช้หนี้ที่ซื้อรถจักรยานยนต์และไม่เคยกลับมาดูแลพ่อ ตนจึงคิดว่าน้องชายคงน้อยใจเรื่องลูก
ขณะที่ น.ส.พิมพ์วิภา อายุ 27 ปี ลูกสาวของผู้ตาย เล่าว่า ตนแต่งงานและย้ายไปอยู่บ้านสามี ตนเพิ่งมาหาพ่อเมื่อ 2 วันก่อน พ่อไม่เคยบ่นอะไรให้ฟัง แต่ก็รู้ว่าพ่อป่วยหลายโรค ตนก็ไม่รู้สาเหตุที่พ่อเป็นคนคิดสั้น แต่พ่อเป็นคนคิดมาก ประกอบกับป่วยและอยู่คนเดียว เสียใจมากที่พ่อจากไปแบบนี้
ด้าน นางณัฐฐาพร อายุ 55 ปี อดีตภรรยาของผู้ตาย เล่าว่า ตนเองอยู่กับผู้ตายมา 13 ปี จากนั้นก็เลิกรากันไปเมื่อไม่นานมานี้ แม้จะเลิกกันแต่ตนก็เป็นห่วงซื้อข้าวมาฝากตลอด เมื่อ 2 วันก่อน ตนก็มาเยี่ยมก็ไม่มีอาการผิดปกติว่าจะฆ่าตัวตาย ยังร่าเริง แต่บอกว่าเจ็บขาเพราะรถล้ม ชวนไปหาหมอแต่ก็ไม่ยอมไป ตนสงสัยและคาใจที่อดีตสามีฆ่าตัวตาย ไม่รู้ไปเอาปืนมาจากไหน มีอะไรอดีตสามีจะบอกหมด ปกติอดีตสามีจะเป็นคนกลัวการฆ่าตัวตาย