ข่าวภาคค่ำ - นายกรัฐมนตรี ตั้ง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นหัวหน้าคณะเจรจา แก้ปัญหากำแพงภาษีจากสหรัฐฯ ยืนยันจะทำอย่างดีที่สุด
นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร นั่งหัวโต๊ะ เป็นประธานการประชุม ติดตามสถานการณ์ด้านการค้า หลังสหรัฐฯ กำหนดกำแพงภาษีนำเข้า-ส่งออก กับไทยถึง 36% โดยได้ตั้ง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นหัวหน้าคณะไปเจรจา กับรัฐบาลสหรัฐฯ พร้อมย้ำว่า การเจรจา ต้องให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับทั้ง 2 ประเทศ ย้ำให้ "รู้เขา-รู้เรา" เบื้องต้น สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ รับนัดรัฐบาลไทยให้เข้าเจรจาแล้ว
ด้าน นายพิชัย ยอมรับว่ามาตรการนี้เป็นวิกฤติที่น่าหนักใจไปทั่วโลก แต่ก็ถือว่าไทยยังมีโอกาส ในการยกระดับการค้าให้สูงขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเกษตร อาหารสัตว์ จากนี้ กระทรวงพาณิชย์ จะเป็นผู้ทำรายละเอียดเพื่อเสนอให้คณะทำงานและคณะรัฐมนตรีพิจารณา นำไปสู่การเจรจาในระดับผู้แทนการค้าของทั้ง 2 ประเทศต่อไป และตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีสินค้าไทยในสหรัฐฯ ปรับราคาสูงขึ้น แต่เริ่มมีการกักตุนสินค้าบ้างแล้ว
และหากภายในวันนี้ รัฐบาลจีนไม่ยอมยกเลิกมาตรการภาษีตอบโต้สหรัฐฯ 34% ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ก็จะเดินหน้าเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีก 50% ซึ่งจะส่งผลให้ ภาษีนำเข้าสินค้าจีนพุ่งเป็น 104% และจะให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายนนี้ เป็นต้นไป
ล่าสุด ทางการจีน ประกาศว่าการคุกคามของสหรัฐฯ ที่ขู่จะขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนอีกนั้น ถือเป็นความผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งเผยให้เห็นถึงธาตุแท้ของสหรัฐฯ ที่ใช้การ "แบล็กเมล" และหากสหรัฐฯ ยืนยันจะใช้วิธีการเช่นนี้ จีนก็จะต่อสู้จนถึงที่สุด
ด้าน นายกรัฐมนตรี ลอว์เรนซ์ หว่อง ของสิงคโปร์ กล่าวในที่ประชุมรัฐสภา แสดงความผิดหวังต่อการตัดสินใจของสหรัฐฯ ที่ขึ้นภาษีกับสิงคโปร์อีก 10% โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงมิตรภาพอันลึกซึ้งและยาวนานระหว่างสองประเทศ พร้อมย้ำว่านี่ไม่ใช่การกระทำของเพื่อนกับเพื่อน