ทำเนียบขาวยืนยัน "ทรัมป์" เอาจริง เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 104 เปอร์เซ็นต์ โดยเริ่มมีผลบังคับใช้แล้วพร้อมกับทุกประเทศที่ถูกขึ้นภาษีตอบโต้
(9 เม.ย.68) ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ออกมายืนยันว่า จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 50 เปอร์เซ็นต์ ตามคำขู่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยคำแถลงการณ์ของทำเนียบขาวระบุว่า การเคลื่อนไหวนี้เป็นการยอมรับข้อเท็จจริงที่จีนประกาศว่าจะตอบโต้สหรัฐฯ ซึ่งเมื่อรวมกับภาษีที่ประกาศก่อนหน้านี้ ทำให้จีนถูกเรียกเก็บภาษีตอบโต้จากสหรัฐฯ สูงถึง 104% โดยเริ่มมีผลบังคับใช้แล้ว เมื่อเวลา 00.01 น. ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ หรือ 11.01 น.ตามเวลาในไทย
นอกจากนี้ ทำเนียบขาวเผยว่า ขณะนี้มีเกือบ 70 ประเทศแล้วที่ติดต่อไปยังสหรัฐฯ เพื่อขอเจรจาลดผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษี ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์สั่งการให้ทำการเจรจาตาม "ข้อตกลงที่ออกแบบเฉพาะ" สำหรับแต่ละประเทศ
สำหรับการเจรจาของประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน เวียดนาม ซึ่งถูกขึ้นภาษีถึง 46% ประกาศจะซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น รวมทั้งสินค้าด้านการทหารและความมั่นคง พร้อมร้องขอให้สหรัฐฯ เลื่อนการขึ้นภาษีออกไปอีก 45 วัน นอกจากนี้ เวียดนามจะพิจารณาปรับเงื่อนไขในข้อตกลงการค้าทวิภาคีกับสหรัฐฯ ที่มีอยู่ในปัจจุบันด้วย
อินโดนีเซีย จะลดภาษีนำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์, เหล็ก, ผลิตภัณฑ์เหมืองแร่ และอุปกรณ์การแพทย์ ให้กับสหรัฐฯ เหลือ 0-5 % จากเดิม 5-10 % ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในข้อเสนอเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อลดผลกระทบจากการขึ้นภาษีอีก 32% นอกจากนี้ ยังมีแผนจะซื้อสินค้าประเภทก๊าซ LPG, ก๊าซ LNG และถั่วเหลือง จากสหรัฐฯ ด้วย โดยอินโดนีเซียจะส่งผู้แทนระดับสูงไปยังสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า
เกาหลีใต้ออกมาตรการฉุกเฉินช่วยเหลืออุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศ ซึ่งเป็นผลจากการที่สหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์และรถบรรทุกขนาดเล็กอีก 25% โดยจะเพิ่มงบช่วยเหลือทางการเงินในปีนี้ เป็น 15 ล้านล้านวอน จากเดิม 13 ล้านล้านวอน พร้อมลดภาษีซื้อรถยนต์เหลือ 3.5% จากเดิม 5% เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป