ห้องข่าวภาคเที่ยง - "ยี บุน ลง" โจรชิงทอง 138 บาท ถูกจับกุมตัวได้ที่กรุงเทพฯ พร้อมของกลางที่ยังอยู่ครบ งานนี้ต้องเรียกว่าจับกุมได้โดยละม่อม ผู้ต้องหาแทบไม่ขัดขืนอะไรเลย ซ้ำยังยอมรับผิดแต่โดยดีด้วย
เป็นนาทีที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9, ภาค 1 และกองปราบฯ เข้าไปจับกุม นายยี บุน ลง คนร้ายที่ก่อเหตุชิงทองในร้านค้าทองชื่อดัง กลางเมืองสงขลา ได้แล้วพร้อมของกลาง สร้อยคอทองคำ และสร้อยข้อมือ รวม 69 เส้น ครบทั้งหมด, เสื้อผ้า, อาวุธปืน พร้อมกระสุน
หลังพบว่าได้เรียกรถรับจ้างให้ไปส่งที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่) เมื่อช่วง 17.00 น. ของเมื่อวาน ซึ่งก็อย่างที่เห็นจับได้โดยละม่อม แทบไม่ขัดขืนอะไรเลย แถมถามอะไรก็ยอมรับแต่โดยดี "ของกลางทั้งหมดเป็นของผมครับ" ไปก่อเหตุชิงทรัพย์มาจริงไหม ? "จริงครับ"
คดีนี้ตำรวจไล่แกะรอยคนร้ายมาเรื่อย ๆ พบว่าหลังก่อเหตุ นายยี บุน ลง ขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดทิ้งไว้ในซอยห่างจุดเกิดเหตุราว 350 เมตร แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า เดินไปทางตลาดกิมหยง ก่อนเรียกรถจักรยานยนต์รับจ้างให้ไปส่งที่สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอหาดใหญ่ แห่งที่ 1 มาลงที่สถานีขนส่งหมอชิต ก่อนจะเคลื่อนไหวอยู่ในจังหวัดนนทบุรี จากนั้นก็ว่าจ้างรถรับจ้างสาธารณะให้มาส่งที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ก่อนจะถูกจับกุมได้อย่างที่เห็น
ซึ่งประเด็นต่าง ๆ ที่มีข้อสงสัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการขึ้นแบล็กลิสต์แล้วเข้าไทยมาได้อย่างไร หรือเรื่องที่มีบัตรประชาชนจำนวนมาก ได้มาอย่างไร ทุกประเด็นต้องมีการสืบสวนขยายผลต่อแน่นอน
ขณะที่ร้านค้าทองที่เกิดเหตุ ที่จังหวัดสงขลา วันนี้ก็กลับมาค้าขายทองตามปกติแล้ว หลังจากหยุดให้บริการไปเมื่อวาน มีพนักงาน 5-6 คน มาทำงาน ทีมข่าวเข้าไปสอบถาม ก็ยอมรับว่ายังหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอไม่ให้สัมภาษณ์ เนื่องจากเจ้าของร้านไม่อยู่ ขึ้นมาแถลงข่าวที่กรุงเทพฯ
ทีมข่าวตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุหนึ่งที่คนร้ายกล้าลงมือ เพราะร้านค้าทองส่วนใหญ่ที่เป็นร้านเก่าจะไม่ติดลูกกรงระบบรักษาความปลอดภัยมีแค่กล้องวงจรปิด ระบบล็อกประตู ซึ่งเรื่องนี้ตำรวจก็สังเกตเห็นเหมือนกัน บอกว่าหลังจากนี้จะไปหารือกับร้านค้าทองต่าง ๆ ให้ปรับปรุงแก้ไข จะได้ลดช่องว่างในการก่อเหตุของคนร้ายได้