ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตลอดทั้งคืน เมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยา มีสารพัดเรื่องราวเกิดขึ้น ทั้งคนเมาซิ่งรถชน วินรถตู้ตีกัน รวมไปถึงกลุ่มสาวประเภทสองนัดเคลียร์ใจ (ตบ) กันวุ่น
ไล่จับวุ่น สาวเมาซิ่งรถชนแล้วหนี
เป็นภาพจากกล้องหน้ารถอาสากู้ภัย ที่จังหวัดชลบุรี ขับรถติดตามรถเก๋งสีขาว ที่ไปชนรถจักรยานยนต์ แล้วหลบหนี
โดยระหว่างทาง คนขับรถเก๋งทั้งซิ่งหนีด้วยความเร็ว ทั้งฝ่าไฟแดง จนเกือบจะเกิดอุบัติขึ้นหลายครั้ง แถมยังไปเฉี่ยวชนกับรถคันอื่น
มีบางช่วงที่อาสากู้ภัย และพลเมืองดี ขี่รถจักรยานยนต์ไปดักหน้าให้จอด คนขับก็เหมือนจะจอดรถ แต่แล้วก็เปลี่ยนใจซิ่งรถหนีไปอีก ก็มีการติดตามกันไม่ลดละ
จนกระทั่งรถเก๋งคันดังกล่าวได้เลี้ยวเข้าไปในหมู่บ้าน ในซอยเทพประสิทธิ์ พัทยาใต้ ไปจอดหน้าบ้านหลังหนึ่ง หญิงสาวซึ่งเป็นคนขับรถก็ลงมาในสภาพคล้ายคนเมา พูดจาวกวน ไม่รู้เรื่อง
พอรถไปจอดหน้าบ้าน พร้อม ๆ กับมีทั้งอาสากู้ภัย ทั้งพลเมืองดี แห่มากันจำนวนมาก ญาติของหญิงสาวก็ตกใจ ออกมาสอบถามเหตุการณ์ จนกระทั่งมีการแจ้งให้ทราบว่าหญิงสาวขับรถเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ที่มีหญิงอายุประมาณ 50-60 ปี ล้มได้รับบาดเจ็บ แล้วไม่ยอมจอดดูหรือช่วยเหลือ ก็เลยติดตามมา
เจรจากันอยู่สักพัก ระหว่างนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตรวจค้นในรถ แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย สุดท้าย ก็ได้นำตัวหญิงสาวไปสอบปากคำ ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ เพื่อแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
เคลียร์ค่าหัวคิวไม่ลงตัว ตีกันเจ็บ
เหตุวุ่น ๆ ในเมืองพัทยายังไม่จบ เมื่อคืน กลุ่มโชเฟอร์รถตู้ ก่อเหตุทำร้ายร่างกายกัน สาเหตุมาจากเรื่องที่แบ่งเงินค่าหัวคิววิ่งรถ จำนวน 300 บาท ไม่ลงตัว ตำรวจต้องไประงับเหตุกันวุ่นวาย
งานนี้มีคนเจ็บ 1 คน ถูกเตะเข้าที่ศีรษะจนแตก โดยหลังจากถูกรุมทำร้ายได้รับบาดเจ็บ ก็มีคนโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยเหลือทำแผล ปฐมพยาบาล แต่ระหว่างนั้นคู่กรณีก็วิ่งเข้ามาทำร้ายซ้ำ จนเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องวิ่งหนีกันกระเจิง
ตบกันชุลมุน ริมหาดพัทยา
สุดท้ายขึ้นชื่อว่า "พัทยา" จะขาดเรื่องนี้ไม่ได้ ก็เป็นคลิปที่นักท่องเที่ยวถ่ายเอาไว้ได้ เป็นกระเทยกลุ่มใหญ่นัดกันไปเคลียร์ปัญหากันบริเวณชายหาดพัทยา
คนมีเรื่องกัน มี 1 คู่ ที่เหลือเป็นเพื่อนของแต่ละฝ่าย ถ้าเคลียร์กันได้ก็คงไม่เกิดภาพอย่างที่เห็น ทำร้ายกัน ตีกันชุลมุล เพื่อน ๆ ก็ไม่มีใครห้าม คงประมาณว่าให้ออกแรงระบายอารมณ์กันไป จะได้จบแต่เรื่องที่เกิดขึ้น ก็สร้างความเสื่อมเสียให้แหล่งท่องเที่ยว ซึ่งเกิดขึ้นไม่เว้นวันในเมืองพัทยา เคสนี้ตำรวจไปถึงก็ตอนที่คู่กรณีแยกย้ายกันไปแล้ว โดยไม่มีใครไปแจ้งความดำเนินคดี