ทนายอนันต์ชัย พาครอบครัวน้องฟีฟ่า อายุ 9 ขวบ ร้อง รมต.กระทรวงสาธารณสุข หลัง โรงพยาบาล ให้ยาเกินขนาด จนเด็กตาบอด เกร็งชัก มีภาวะหัวใจหยุดเต้น
จากกรณี ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความว่า เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 13.00 – 14.00 น. ด.ญ.หนึ่งธิดา มุ่งต่อบัว หรือน้องฟีฟ่า ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เขตหนองแขม ด้วยอาการท้องเสียและอ่อนเพลีย
ต่อมาหมอได้ให้ยาอะดรีนาลีน เพื่อเพิ่มความดัน จน เด็กความดันเพิ่มขึ้นรุนแรง จนสมองขาดเลือด และ ตาบอด เกร็งชัก หัวใจหยุดเต้น
เวลาประมาณตี 2 ของวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 น้องฟีฟ่ามีอาการอาเจียน ท้องเสีย ตาค้าง นิ่งไม่รู้สึกตัว อาการไม่ดีขึ้น จึงได้ย้ายมารักษาตัวที่โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ด้วยภาวะวิกฤต ภายในปอดมีฝ้า หัวใจโต หัวใจเต้นผิดจังหวะ ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ มีการรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ
ต่อมา ประมาณวันที่ 19 -20 กุมภาพันธ์ 2568 อาการเริ่มหนักขึ้น ตาสองข้างบอด มองไม่เห็น พูดไม่ได้ แขนขาขยับไม่ได้ ต่อมา คุณหมอเรียกเข้าไปชี้แจงว่า อาการน้องเป็นแบบนี้เกิดจากสภาวะหัวใจหยุดเต้น สมองขาดเลือดไปเลี้ยงนานจนเกิดภาวะสมองตาย ให้พ่อแม่ทำใจไว้ น้องอาจจะหายแต่จะกลับมาไม่เหมือนเดิม พูดแบบนี้พ่อแม่หัวใจสลาย แถมหมอยังพูดว่าที่รักษานี้ เกิน 30 บาท แล้ว รักษาเกินสิทธิ 30 บาท จะเอาอะไรอีก รักษาเกินมาตรฐานแล้ว พ่อแม่ของน้องฟีฟ่าได้สอบถามว่า เกิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร คุณหมอบอกว่า เกิดจากการฉีดยา adrenaline กระตุ้นความดันที่ฉีดให้น้องตั้งแต่วันแรกทำให้น้องช็อก หัวใจหยุดเต้นไปประมาณ 4 นาที และยังมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆอยู่ด้วย น่าจะมาจากผลข้างเคียงของฤทธิ์ยา
ด.ญ.หนึ่งธิดา มุ่งต่อบัว หรือน้องฟีฟ่า อายุ 9 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.3 โรงเรียนพระยามนธาตุศรีพิตร์ เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร เป็นเด็กร่าเริงแจ่มใส ชอบรำ เป็นที่รักของคุณครูและเพื่อนๆในห้อง และเป็นเด็กเรียนดี เอาใจใส่การเรียนมาก ไม่เคยค้างงานที่ได้รับมอบหมายจากครู เกรดเฉลี่ย 3.25
ผมจึงอยากขอความช่วยเหลือจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองและสายตา และอื่นๆ โปรดช่วยรักษาน้องฟีฟ่าด้วย และขอเรียกร้องให้แพทย์ และโรงพยาบาล ออกมารับผิดชอบ ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช
ล่าสุด (10 เม.ย. 68) ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช พาพ่อแม่น้องฟีฟ่า ยื่นหนังสือร้องเรียน รมต.สาธารณสุข โดยพ่อและแม่ ไม่ได้ต้องการดำเนินคดีกับแพทย์ แต่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือด้านการรักษาให้ลูกสาวกลับมาเป็นปกติ
ขณะที่ รศ.นพ.เมธี วงศ์ศิริสุวรรณ กรรมการแพทยสภา กล่าวว่า จะนำข้อมูลเข้าสู่ที่ประชุมของแพทยสภา เพื่อร่วมหาแนวทางช่วยเหลือผู้ป่วยรายนี้ต่อไป