เครื่องมือหนักลุยถึงยอดซากอาคาร สตง. ถล่มแล้ว เปิดทางใหม่ เร่งภารกิจหาผู้สูญหายพากลับบ้าน
(15 เม.ย.68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงสถานการณ์ล่าสุดของอาคารสตง. เขตจตุจักร ผ่านเพจ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ว่า เมื่อคืนพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 3 ราย ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิต ณ ขณะนี้อยู่ที่ 44 ราย ซึ่งขณะนี้การรื้อซากอาคารสามารถนำรถเครื่องมือหนักขึ้นมาถึงยอดบนสุดได้แล้ว ซึ่งมีความสูงจากพื้นดินประมาณ 19-20 เมตร จากเดิมที่มีความสูงกว่า 100 เมตร
โดยหากค้นพบสัญญาณชีพหรือเคสชิ้นส่วนอวัยวะ เครื่องมือหนักก็ต้องหยุดการทำงานทันที เพื่อส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าค้นหาสลับกันไป ทั้งนี้ยังมีเจ้าหน้าที่คอยมอนิเตอร์เหตุการณ์อย่างละเอียดอยู่บนอาคารสูงตลอดเวลาอีกด้วย ซึ่งภารกิจขณะนี้เน้นที่การค้นหาผู้สูญหายควบคู่กับการรื้อซากอาคารไปพร้อมกัน
ส่วนเรื่องสภาพอากาศ ที่ผ่านมามีฝนตกหนักในพื้นที่เขตจตุจักร มีหลายภาคส่วนเป็นห่วงเรื่องเศษดินและปูน สไลด์ถล่มจากอาคาร ทางทีมงานผู้เชี่ยวชาญได้ดำเนินการทำเนินไว้เพื่อป้องกันดินสไลด์ซึ่งมีความมั่นคง พร้อมมีเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญดูแลอยู่ตลอดเวลา จึงสามารถวางใจได้ในเรื่องของดินปูนจากอาคารที่สไลด์ลงมา
นอกจากนี้ยังมีการเปิดออกทางที่บริเวณโซน C เพื่อขนซากปูนและเหล็กของซากอาคารออกอีกหนึ่งช่องทางนอกเหนือจากช่องทางหลัก เพื่อขนส่งซากอาคารไปสู่ที่ดินของการรถไฟถนนกำแพงเพชร 7 จึงทำให้การขนซากอาคารออกจากพื้นที่มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่บริเวณซากอาคาร สามารถลดความสูงได้ประมาณ 1 เมตรจากเมื่อวาน เครื่องจักรจะเข้าขนย้ายเศษปูนที่โซน A , B และ C หากพบสิ่งที่ระบุเพื่อเป็นข้อมูลเชื่อมโยง เช่น เครื่องแบบ พวงกุญแจ ฯลฯ ที่ติดกับร่าง หรือบริเวณใกล้เคียง จะบันทึกข้อมูลและแจ้งศูนย์ควบคุม (SCC) เพื่อให้ทีม DVI (Disaster Victim Identification) พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลก่อนส่งให้ทีมวิเคราะห์ข้อมูล USAR ซึ่งมีจุดที่น่าสนใจ คือ ST 2, ทางเชื่อมอาคาร และ ST1
การดูแลช่วยเหลือประชาชนและการเยียวยา กทม.ได้ เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ได้แก่ ศูนย์พักพิง กทม. 3 แห่ง คือ การขอที่พักอาศัยผ่าน Airbnb ศูนย์พักพิงโรงเรียนวัดเสมียนนารี และศูนย์พักคอยญาติผู้ประสบภัย เขตจตุจักร โดยศูนย์พักพิงของผู้ได้รับผลกระทบ ไม่สามารถเข้าพักในอาคารเดิมได้ และขอที่พักอาศัยผ่าน Airbnb